มูลนิธิธารน้ำใจ นำผู้แทนสถานศึกษาต้นแบบด้านคุณธรรมจริยธรรมที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการเชิดชูเกียรติสถานศึกษาฯ จำนวน ๙ โรงเรียน เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อรับพระราชทานรางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๓
พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิธารน้ำใจ กล่าวแสดงความห่วงใยต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับเยาวชนไทยในสังคมปัจจุบันว่า นับวันปัญหาของเยาวชนไทยจะทวีความรุนแรงและเป็นเรื่องน่าวิตกมากขึ้น เพราะขณะนี้วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ได้ถูกมองข้ามและเห็นเป็นเรื่องล้าหลัง อีกทั้งยังถูกลดค่าลงทุกวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับวัฒนธรรมตะวันตกที่ในทุกวันนี้ได้เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มเยาวชนจำนวนมาก ดังจะเห็นได้จากค่านิยมในการดำรงชีวิตที่ผิดแปลกแตกต่างไปจากเดิม ปรากฏให้เห็นได้อย่างเด่นชัดในหลายประการ เช่น แฟชั่นการแต่งกาย การออกเดทของหมู่วัยรุ่น เห็นความสำคัญของผู้อื่นน้อยกว่าตนเอง ให้ความสำคัญกับวัตถุนิยม นอกจากนี้ ยังแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว นิยมใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเล่นการพนัน ติดเกมออนไลน์ สารเสพติด และอบายมุขต่างๆ ที่กล่าวมานี้นับเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของปัญหาเท่านั้น โดยต้องยอมรับว่า ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ กำลังจะเป็นภัยร้ายที่กำลังคุกคามและพร้อมที่จะแพร่กระจายและแทรกซึมเข้าไปในทุกภาคส่วนของสังคมไทย และสิ่งเลวร้ายที่สุดนั่นคือ ผลกระทบที่ตกไปอยู่ในกลุ่มเยาวชนไทยที่ซึ่งจะเติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ซึ่งทุกวันนี้เด็กไทยยังคงวนเวียนและติดอยู่ในวังวงของสิ่งกระตุ้น ยั่วเย้าต่างๆ ที่มอมเมาให้มีความเชื่อและหลงใหลไปกับค่านิยมที่ผิดทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังที่เป็นข่าวในทุกวันนี้
ทั้งนี้ จากปัญหาและวิกฤตการณ์ทางสังคมดังกล่าวข้างต้น นับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มูลนิธิธารน้ำใจ ได้จัดให้มี โครงการเชิดชูเกียรติสถานศึกษาที่สร้างคนดีให้สังคมด้วยการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อเสาะแสวงหาโรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรมจริยธรรม ที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมูลนิธิฯ จะยกย่องเชิดชูเกียรติสถานศึกษาต้นแบบเหล่านั้น ให้เป็นที่ปรากฏและเป็นแบบอย่างให้สถานศึกษาอื่นได้ปฏิบัติตาม ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า ๑๐ ปี (นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ – ปัจจุบัน ) โดยมีสถานศึกษาที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ รวมทั้งสิ้นแล้ว ๖๒ โรงเรียนโดยในปีการศึกษา ๒๕๕๓ นี้ มูลนิธิฯ ได้คัดเลือกสถานศึกษาที่มีผลงานด้านคุณธรรมจริยธรรมโดดเด่น และมีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ให้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อรับรางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ รวมทั้งสิ้น ๙ โรงเรียน แบ่งออกเป็น รางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ “ดีเด่น” จำนวน ๕ โรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนในระดับประถมศึกษา จำนวน ๒ โรงเรียน คือ
โรงเรียนทรงวิทยา และโรงเรียนวัดเปรมประชากร ระดับชั้นมัธยมศึกษา จำนวน ๓ โรงเรียน คือ โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล โรงเรียนปทุมวิไล และโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง สำหรับรางวัลที่สถานศึกษาจะได้รับคือ โล่เชิดชูเกียรติและรางวัลเงินสด สถานศึกษาละ ๕๐,๐๐๐ บาท
ทั้งนี้ สำหรับรางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ “ชมเชย” มีสถานศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน ๔ โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนในระดับประถมศึกษา จำนวน ๒ โรงเรียน คือ โรงเรียนสุขเจริญผล และโรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ รามคำแหง ระดับชั้นมัธยมศึกษา จำนวน ๒ โรงเรียน คือ โรงเรียนปราโมชวิทยารามอินทรา และโรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รางวัลที่สถานศึกษาจะได้รับ คือ โล่เชิดชูเกียรติและรางวัลเงินสด สถานศึกษาละ ๓๐,๐๐๐ บาท โดยมูลนิธิฯ จะนำผู้แทนสถานศึกษาทั้ง ๙ โรงเรียนที่ได้รับคัดเลือก เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัลเกียรติคุณ สัญญาธรรมศักดิ์ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศาลาดุสิตาลัย สวนจิตรลดา ในวันศุกร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ นี้
“อย่างไรก็ดี เชื่อมั่นว่าปัญหาที่สังคมไทยขาดคุณธรรมนั้น จะสามารถพัฒนาแก้ไขและก้าวพ้นวิฤตการณ์ทางสังคมได้ หากได้รับความร่วมมือจากทุกคนในสังคม โดยขอให้คิดว่าการทำความดีเป็นหน้าที่หลักของสมาชิกทุกคนในสังคม ขอให้เริ่มจากตัวเราเองก่อน ซึ่งจะมีทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด หากเราเป็นผู้ใหญ่ก็ควรที่จะประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีเพื่อให้แก่เด็กและเยาวชนได้เจริญรอยตาม
ขณะที่ กลุ่มเยาวชนที่ถือว่าเป็นอนาคตของชาติบ้านเมืองนั้น ก็ควรที่จะต้องตระหนักในคุณค่าของตนเอง และจำเป็นต้องเรียนรู้และปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตน เพื่อช่วยกันนำพาประเทศชาติให้พัฒนาสืบไป ทั้งนี้หากทุกคนร่วมมือ ร่วมใจที่จะผลักดันให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งคุณธรรมจริยธรรมแล้ว สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย และสังคมไทยก็จะเป็นสังคมที่ผาสุกอย่างยั่งยืน ไม่สับสนวุ่นวายเหมือนเช่นทุกวันนี้” พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ กล่าวในที่สุด
-----------------------------------------------
ขอขอบคุณมา ณ โอกาส นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ชลาลัย ถิระโชติ (วุ้นเส้น)
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ มูลนิธิธารน้ำใจ
โทร. 085 165 3525 / 02 681 2020 ต่อ 213