ReadyPlanet.com
dot dot
dot
เกี่ยวกับมูลนิธิฯ
dot
bulletที่มาของมูลนิธิฯ
bulletวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ
bulletคณะกรรมการฯ ชุดก่อตั้ง
bulletคณะกรรมการฯ ชุดปัจจุบัน
bulletบริจาคสมทบทุนมูลนิธิฯ
dot
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
dot
bulletกระทรวงศึกษาธิการ
bulletกระทรวงวัฒนธรรม




โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (รางวัลฯ ดีเด่น) article

ประวัติ:

  • พ.ศ. 2425  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ   ให้ตั้งขึ้นที่พระตำหนักสวนกุหลาบในพระบรมมหาราชวัง
  • พ.ศ. 2436 ย้ายออกไปตั้งนอกพระราชวัง  แยกเป็น 2 แห่ง
         1. ตั้งที่วัดมหาธาตุ เรียกว่า “โรงเรียนสวนกุหลาบไทยวัดมหาธาตุ”
         2. ตั้งที่วังหน้า เรียกว่า “โรงเรียนสวนกุหลาบวังหน้า”  ต่อมาได้บ้ายไปตั้งที่สวนสุนันทาลัย ปากคลองตลาด  เรียกว่า “โรงเรียนสวนกุหลาบ   อังกฤษสวนสุนันทาลัย”
  • พ.ศ. 2447 ย้ายไปอยู่ที่ตึกแม้นนฤมิต  วัดเทพศิรนทร์  เรียกว่า “โรงเรียนสวนกุหลาบอังกฤษเทพศิรินทร์”  รอการสร้างโรงเรียนใหม่ที่วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ)
  • พ.ศ. 2453 ย้ายมาร่วมกับโรงเรียนวัดราชบูรณะ (วัดเลียบ)  เรียกว่า “โรงเรียนสวนกุหลาบ”

สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่บนเนื้อที่ของวัดราชบูรณะ  เลจที่ 88 ถนนตรีเพชร  แขวงวังบูรพาภิรมย์  เขตพระนคร  กรุงเทพมหานคร 10200  มีเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา

ปัจจุบัน: โรงเรียนสวนกุหลาบเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย  ในสังกัดกรมสามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ  เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มี นายสมพงษ์ รุจิรวรรธน์  เป็นผู้อำนวยการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ถึงปัจจุบัน  มีครูและอาจารย์ จำนวน 209 คน  เป็นชาย 67 คน เป็นหญิง 142 คน  มีนักเรียนชายล้วนจำนวน 4,337  คน

คติพจน์ของโรงเรียน:  “สุวิชาโน ภว โหติ”  ผู้รู้ดีคือ ผู้เจริญ


บางส่วนของ
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

........นโยบายการรับเด็กในพื้นที่ 70%
นับเป็นนโยบายที่ดีในการเปิดประตูโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
ให้แก่เด็กที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและย่านชุมชนโดยรอบได้มีโอกาสเข้าเรียน
แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลในการพัฒนานักเรียนให้เก่งและดีโดยรวมลดลง
นอกจากนี้ฐานะทางครอบครัวและความเป็นอยู่ของนักเรียนก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ทางคณะครูและอาจารย์
ต้องลงมาให้การดูแลอย่างใกล้ชิด  เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาต้องแก้ไขและหาทางป้องกัน
จากสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ “ปัญหาสารเสพติด”...................


โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย  ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกที่พระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง  เมื่อจุลศักราช 1244 (พ.ศ.2425)  มีชื่อว่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ  โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้ตั้งขึ้น  เพื่อจะบำรุงฐานะของนายทหารมหาดเล็กให้กลับสูงศักดิ์ดังพระราชดำริ คือรับนักเรียนเป็นราชสกุลและบุตรหลานข้าราชการ  นักเรียนโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบเดิมมีฐานะเป็นนักเรียนนายร้อยทหารมหาดเล็ก   ต่อมาพระองค์ได้ทรงแก้ไขวิธีการเรียนเปลี่ยนฐานะนักเรียนจากทหารมาเป็นนักเรียนวิชาสำหรับราชการพลเรือน  และเปลี่ยนแปลงไปตามลำดับ  จนกระทั่งปัจจุบัน  โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยถือเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย  ในสังกัดสามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ

ในจำนวนนักเรียนชายล้วน 4,337 คน  นอกจากจะมีปัญหาหลากหลายที่มากับนักเรียนทั่วสารทิศแล้ว 70 % ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดนี่เอง  ที่โรงเรียสวนกุหลาบวิทยาลัยต้องเปิดรับนักเรียนจากพื้นที่รอบๆ โรงเรียน  ซึ่งมีความเสี่ยงสูง  อันเนื่องมาจากชุมชนปากครองตลาดซึ่งเป็นตลาดในเชิงธุริกจที่มีการหมุนเวียนและขนส่งสินค้าอยู่ตลอดเวลา  ผู้ใช้แรงงานมีโอกาสจะใช้สารเสพติดเพื่อให้มีความรู้สึกอยากทำงานมากขึ้น  จึงเป็นผลพวงให้เกิดการค้าสารเสพติดค่อนข้างมาก  นักเรียนจึงมีโอกาสสัมผัสบรรยากาศและสภาพความเป็นจริงที่คุ้นเคยกับการใช้สารเพติดเหล่านี้ได้ง่ายและมีความเสี่ยงสูงหากไม่มีภูมิคุ้มกันดีพอ กอปรกับปัญหานักเรียนที่มีฐานะดีแต่ขาดการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวสามารถใช้จ่ายได้อย่างฟุ่มเฟือย  มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับการชักจูงไปสู่สิ่งเสพติดได้  ปัญหาความยากจนและครอบครัวที่แตกแยก  หรือปัญหาทางเศรษฐกิจของครอบครัว  หากแรงยึดเหนี่ยวที่เป็นภูมิคุ้มกันไม่ดีก็ย่อมจะถูกชักจูงไปสู่การเสพหรือค้าสารเสพติดได้ง่ายเช่นกัน

ปัญหานักเรียนที่เรียนไม่ทันเพื่อนอันเนื่องมาจากพื้นความรู้แตกต่างกันมาก  ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้นักเรียนพยายามสร้างปมเด่นให้กับตนเอง  ด้วยการหนีเรียนหรือคบเพื่อนพากันไปมั่วสุมตามแหล่งบันเทิงต่างๆ เช่น การเล่นสนุ๊กเกอร์ เล่นเกมส์ การเที่ยวตามศูนย์การค้า การเที่ยวยามค่ำคืน การแข่งรถ การพนันฟุตบอล การลักทรัพย์ เป็นต้น

ที่มาของปัญหาต่างๆ เหล่านี้  ทำให้คณะครูและะอาจารย์ของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยต้องทำงานกันอย่างหนัก  เพื่อระดมความคิดเห็นในการแก้ไข  และหาทางป้องกันไม่ให้ปัญหาที่มีอยู่ได้แพร่ขยายออกไปในวงกว้างและหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาซ้ำซ้อน  โดยเฉพาะปัญหาทางด้านสารเสพติด  เพราะสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป  ความเป็นปึกแผ่นของคนในสังคมลดลง  สถาบันครอบครัวอ่อนแอลง  การพึ่งพาสถาบันทางสังคมทำได้ยากขึ้น  ดังนั้น  เด็กและเยาวชนจึงมีความเสี่ยงสูงในการหันเหชีวิตไปสู่แหล่งอบายมุขต่างๆ  ที่นอกเหนือจากสารเสพติด อาทิ การเที่ยวเตร่มั่วสุมตามสถานเริงรมย์  การขีดเขียนทำลายสิ่งสาธารณะ การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรอันอาจทำให้ได้รับเชื้อเอดส์  การทะเลาะวิวาท การทำร้ายตนเอง ฯลฯ  และในที่สุดต้องหมดอนาคตทางการศึกษา

คณะครู อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย  ได้เข้าใจและตระหนักถึงพิษภัยของสารเสพติดที่ทำลายเยาวชน ทำลายครอบครัว ทำลายประเทศชาติ  จึงพยายามุ่ทเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์  เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  เริ่มตั้งแต่การให้ความรู้ความเข้าใจ  ให้มีภูมิปัญญาวินิจฉัยเพื่อเฝ้าระวังตนเองให้รู้จักวิธีการป้องการและปฎิเสธอย่างฉลาด สามารถถ่ายทอดวิธีการป้องกันไปสู่คนใกล้ชิด  นำไปสู่การสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบครัวและสังคม  รวมทั้งมีทางเลือกที่ดีงามในการแก้ปัญหาและพัฒนาตนเองและสังคมต่อไป  โดยได้คัดกรองและแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม  เพื่อง่ายต่อการแก้ไขปัญหาและปัองปราม คือ กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มที่มีปัญหา

จากนั้น ครูและอาจารย์ของโรงเรียนฯ ก็ได้กำหนดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมากมายทั้งที่ครูและอาจารย์ต้องลงไปดูแลด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด  และให้นักเรียนได้ดูแลกันเอง  โดยพยายามสอดแทรกเรื่อง คุณธรรมจริยธรรม  และให้รู้ถึงข้อดีข้อเสียและโทษของสารเสพติด เช่น

  • การอบรมออกค่ายปฐมนิเทศให้แก่นักเรียน ชั้นม.1 และการเรียนรู้ถึงพิพิธภัณฑ์การศึกษาชาติและพิพิธภัณฑ์โรงเรียน  เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในสถาบันโดยให้เรียนรู้และการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของโรงเรียนสวนกุหลาบฯ  การปลูกฝังและสร้างจิตสำนักเพื่อให้เกิดความสามัคคี ความผูกพัน  โดยเฉพาะให้เกิดความรู้สึกรักหวงแหน เชื่อมั่น ศรัทธา และภูมิใจใน “ความเป็นสวนกุหลาบ”  โดยจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างระเบียบวินัย การอยู่ร่วมกัน  ทำกิจกรรมร่วมกัน มีความเสียสละ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และมีโอกาสพบศิษย์เก่าที่ประสงความสำเร็จเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีงาม
  • การสนับสนุนให้นักเรียนเล่นกีฬาการเชียร์ การแปรอักษร ดนตรีไทย ดนตรีสากล และวงโยธวาทิต
  • การจัดตั้งชุมชนต่าง ถึง 28 ชุมนุม  เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่  อีกทั้งเป็นการสร้างภาวะผู้นำให้แก่ตนเอง
  • การสนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรม  เพื่อให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมประเพณีและศาสนา เช่น วันแห่เทียนเข้าพรรษา  วันแสดงตนเป็นพุทธามามกะ วันพ่อ วันแม่ งานมุฑิตาจิต โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน  โครงการธนาคารความดี ฯลฯ

นอกเหนือจากกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการดูแลนักเรียนปกติและนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง  เพื่อให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  และเพื่อปลูกฝังสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนได้รู้ถึงข้อดีข้อเสียและโทษของสารเสพติด ตลอดจนโทษของอบายมุขต่างๆ แล้ว  นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มที่มีปัญปาและกำลังจะเริ่มมีปัญหา  คณะครูอาจารย์ก็ได้กำหนดกิจกรรมการดูแลป้องปราม เฝ้าระวังขึ้น โดยนายสมพงษ์ รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้ให้ความสำคัญในปัญหาสารเสพติดและอบายมุขทุกประเภทเป็นอย่างมาก  จึงได้สร้างห้องกุหลาบขาวขึ้น  เพื่อให้มีการบริการในด้านการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงภัยที่เกิดจากสังคมและสารเสพติด โดยการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล  บริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์  ตอบปัญหาทางจดหมาย บอร์ดประชาสัมพันธ์ เว็บไซต์  ให้ความรู้เรื่องเพศ โรคเอดส์ และสารเสพติด บริการแผ่นพับ เอกาสารให้ความรู้ต่างๆ บริการวีดิทัศน์ และวีซีดี  และยังมีบริการส่งต่อนักเรียนเพื่อให้เกิดการบำบัดรักษา  โดยนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ครูประจำชั้นหรืออาจารย์ที่ปรึกษา ก็จะให้ความเอาใจใส่ดูแลพฤติกรรมต่างๆ อย่างใกล้ชิด  โดยประสานงานกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง  ซึ่งมีห้องกุหลาบขาวเป็นองค์กรดูแลแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงของนักเรียน  เฉพาะรายบุคคล  และอบรมกลุ่ม

ดังนั้น บทบาทหน้าที่ของห้องกุหลาบขาวจึงนับว่ามีความสำรัญมากต่อการแก้ไชและป้องปรามปัญหาสารเสพติด  และอบายมุขทุกประเภท  เนื่องจากห้องกุหลาบขาวจะทำการศึกษาข้อมูล เก็บข้อมูลต่างๆและใช้กลวิธีในการแก้ปัญหาตามหลักจิตวิทยาร่วมกับงานแนะแนวของโรงเรียนฯ  นอกจากนี้ยังสร้างความไว้วางใจโดยการพูดคุยปรึกษาจนนักเรียนเกิดการยอมรับ และยินดีปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกเก็บเป็นความลับ
 ห้องกุหลาบขาวยังทำหน้าที่ติดต่อประสานกับผู้ปกครองของนักเรียน  เพื่อทำความเข้าใจ เสนอแนวคิดให้ผู้ปกครองยอมรับ  และให้ความเห็นใจนักเรียน  ตลอดจนให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนฯ อย่างเช่น การขออนุญาตตรวจปัสสาวะนักเรียน เป็นต้น

ถ้านักเรียนที่มีอาการเสพติดอย่างรุนแรง (ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก)   คณะกรรมการห้องกุหลาบขาวจะติดต่อโรงพยาบาลหรือสถานบำบัด  อำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองและสร้างขวัญกำลังใจ  ทั้งผู้ปกครองและนักเรียน  โดยไม่คิดว่าเป็นความผิด  แต่จะให้ความเข้าใจและเห็นใจ  รวมทั้งให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาร่วมกัน  ซึ่งในบางครั้งยังสร้างความเข้าใจกับผู้ปกกครองบางรายให้ตระหนักถึงความสำคัญและจำเป็นต้องรับนักเรียนของตนไปดูแลรักษาที่บ้านด้วยตนเอง

ในการดำเนินการของห้องกุหลาบขาวจะมีนักเรียนอาสาสมัครเป็นสำคัญในการแก้ปัญหา  เพราะอยู่ในวัยเดียวกัน  สามารถเข้าใจความรู้สึก  สร้างมิตรภาพและสร้างความไว้วางใจได้ดี  จึงนับเป็นแนวคิดของความร่วมมือที่พัฒนาไปอีกระดับหนึ่งของผู้บริหารโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย  และถือเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับจากองค์กรภายนอก เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ปส.) และองค์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสาธารณสุข (Path)   ซึ่งคอยให้คำปรึกษาและอบรมครู-นักเรียน  ที่เป็นอาสาสมัครของห้องกุหลาบขาว  นอกจากนี้ห้องกุหลาบขาวยังได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายผู้ปกครอง  สมาคมครู-ผู้ปกครองโรงเรียนสวนกุหลาบฯ สมาคมศิษย์เก่าฯ มูลนิธิสวนกุหลาบวิทยาลัย ชมรมครูเก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย  งานชุมชนสัมพันธ์ของสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ชุมชนรอบๆ โรงเรียนฯ ที่คอยให้ข้อมูลและช่วยแจ้งข่าวสาร

จากกิจกรรมและผลงานต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย  ทำให้นักเรียนกลุ่มปกติดและกลุ่มเสี่ยงของโรงเรียนฯ  รู้ถึงโทษภัยของสารเสพติดและอบายมุขต่างๆ ตลอดจนกลุ่มนักเรียนที่มีปัญหาก็เหลือลดน้อยและน่าจะหมดไปในที่สุด  ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นที่ยอมรับจากองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ  อีกทั้ง  ผู้บริหารของโรงเรียนฯ ยังสามารถประสานความร่วมมือจากสมาคมศิษย์เก่า  สมาคมครู-ผู้ปกครอง ชมรมครูเก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยและชุมชนต่างๆ โดยรอบ  มาร่วมกันแก้ไขปัญหาและป้องปรามปัญหาร่วมกันได้  และที่สำคัญสามารถทำให้นักเรียนได้รับการปลูกฝังและมีจิตสำนึกในการร่วมกันต่อต้านสารเสพติดและอบายมุขทุกประเภท  จนทำให้นักเรียนของโรงเรียนสวนกุหลายวิทยาลัย  หันมาร่วมันส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม  เพื่อป้องกัน และลด ละ เลิกสารเสพติดภายในโรงเรียนได้  ซึ่งถือเป็นการช่วยก้ำปัญหาของเด็กและเยาวชน ของสังคม และของประเทศชาติได้ในระดับหนึ่ง




ทำเนียบรางวัลฯ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2544

โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย (รางวัลฯ ดีเด่น) article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
มูลนิธิธารน้ำใจ 107 – 115 ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 0-2721-3999 ต่อ 222, 223, 08-9983-8091, 09-0986-8398 โทรสาร 0-2721-3788 E-mail: info@tarnnamjai.org