ประวัติ: ก่อตั้งขึ้นโดย พลอากาศโท หลวงเทวฤทธิ์พันลึก (กากพย์ ทัตตานนท์) ผู้บังคับบัญชาทหารอากาศ (คนที่ 3) เมื่อวันที่ 18 กันยายน พศ.2490
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 171/3151 หมู่ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ปัจุบัน: โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนในระบบสหศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนชาย-หญิงรวม 3,983 คน มีครู-อาจารย์ จำนวน 19*1 คน และมีนางลัดดา พร้อมมูล เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน
สัญลักษณ์ของโรงเรียน: เป็นรูปนกกางสองปีก มีรูปเสมาธรรมจักรอยู่ภายใต้อักษรย่อ ฤ.ว. คั่นอยู่กึ่งกลางภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี
พุทธภาษิตของโรงเรียน: “ปญญา นรานํ รจนํ” ปัญญาเป็นแก้วอันประเสริฐของคนดี
บางส่วนของ
โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย
... หากไม่ใช่ความเพียรพยายาม ความอดทน
ความรักและความเข้าใจในปัญหาของนักเรียนอย่างแท้จริง
ฤทธิยะวรรณาลัยในวันนี้คงไม่มีความแตกต่างจากฤทธิยะวรรณาลัยในอดีตอย่างแน่นอน
โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ในบริเวณชุมชนท่าดินแดง ซึ่งเป็นเขตบ้านพักของข้าราชการกองทัพอากาศใกล้กับชุมชนชายคลองและชุมชนสายไหม ชุมชนในเขตพื้นที่สายไหมยังได้ชื่อว่าเคยมีปัญหาการจำหน่ายและเสพสารเสพติดในอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ และในปัจจุบันสภาพของชุมชนโดยรวมก็ยังมีการแพ่ระบาดของสารเสพติดยู่บ้าง
ทุกๆ ปีที่มีการรับนักเรียนใหม่เข้ามาอยู่ในรั้วของฤทธิยะวรรณาลัย ปัญหานักเรียนในเขตพื้นที่ชุมชนที่เข้ามาเรียนมักจะพกพาพฤติกรรมส่วนตัวที่เป็นปัญหาติดเข้ามาด้วยเสมอ ทั้งเรื่องสารเสพติด การมั่วสุม การทะเลาะวิวาท การเล่นการพนัน ฯลฯ
ระบบการคัดกรองนักเรียนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้จึงได้เริ่มขึ้น โดยแบ่งเป็นนักเรียนกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ และกลุ่มปัญหาอื่นๆ จากนั้นจะเน้นโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มากที่สุด โดยจัดกิจกรรม “โฮมรูม” เพื่อให้ครู-อาจารย์ ได้รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ได้ทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครอง โดยครู-อาจารย์แต่ละคนจะออกเยี่ยมเยียนครอบครัวของนักเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบทุกคนถึงบ้านพัก โดยเฉลี่ยครู 1 คน จะรับผิดขอบนักเรียน 20-25 คน
คณะครู-อาจารย์ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ได้ให้การเอาใจใส่ควมเป็นอยู่ของนักเรียนอย่างใกล้ชิด ได้ทำการสัมภาษณ์นักเรียนและผู้ปกครองแบบการพูดคุยอย่างเป็นกันเองทำให้ผู้ปกครองและนักเรียนเกิดความสบายใจและยินดีให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนเป็นอย่างดี จากนั้น คณะครู-อาจารย์จึงได้ใช้กลยุทธ์ให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการดูแลและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับตัวนักเรียน โดยการจัดตั้ง “โครงการผู้ปกครองเครือข่ายและนักเรียนเครือข่าย” ขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมการนักเรียน ชุมชน และ หน่วยงานภายนอก เช่น กองทัพอากาศ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ สถานีตำรวจนครบาลสายไหม สารวัตรทหารอากาศ ฯลฯ โดยให้หน่วยงานภายนอกเข้ามามีบทบาทเป็นคณะกรรมการฝ่ายปกครอง มีส่วนร่วมในการวางแผน เสนอโครงการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในร่วมกัน
นอกจากนี้ คณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียน ยังได้พยายามจัดตกแต่งและปรับปรุงสถานที่และสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้สะอาด ร่มรื่น สวยงาม และไม่ให้มีมุมอับ เพื่อลดการมั่วสุมของนักเรียน และยังได้ประสานงานกับสารวัตรทหารอากาศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.น.สายไหม เพื่อแจ้งหรือช่วยส่งกลับมายังโรงเรียน กรณีมีนักเรียนไปมั่วสุมตามร้านเกมส์ หรือสถานที่ภายนอกที่อาจก่อให้เกิดเหตุไม่เหมาะสม หรือไปเกี่ยวข้องกับสารเสพติดได้
จากการดูแลเอาใจใส่ของคณะผู้บริหาร ครู-อาจารย์ คณะกรรมการนักเรียน และหน่วยงานภายนอก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากที่มีนักเรียนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสารเสพติด ทั้งยาบ้าและบุหรี่ ทั้งเสพและจำหน่าย จนในปัจจุบันปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ลดน้อยจนเกือบหมดไปเหลือเพียงนักเรียนเข้าใหม่ในบางครั้งที่มีพฤติกรรมเสพติดตัวมา ซึ่งทางครู-อาจารย์ ก็ได้ให้ความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ในการักษาบำบัดให้หายและเลิกเสพ และหันมาพัฒนาตัวเองในด้านการเรียนและการกีฬาเท่านั้น
กลยุทธ์ในการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและนักเรียนเครือข่าย ตลอดจนหน่วยงานภายนอก นับว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายเพราะปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง หรือนักเรียนด้วยกัน ได้ช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมของนักเรียนโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยจนเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน ทำให้คณะครู-อาจารย์สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที หากมีนักเรียนบางคนหลงผิดไปในบางครั้ง จึงนักเป็นการสร้างระบบป้องกันไปสู่อนาคตได้อย่างเป็นรูปธรรม และนับเป็นตัวอย่างที่ดีของโรงเรียนสีขาวที่มีแนวคิดพัฒนาตนเองในการสร้างเกราะป้องกันได้อย่างดียิ่ง
อีกทั้งนับเป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่าของครู-อาจารย์ และผู้บริหารโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยที่สามารถขยายความร่วมมือจากภายในไปสู่ภายนอกได้อย่างเป็นผล และหากไม่ใช่ความเพียรพยายาม คยามอดทน ความรักและความเข้าใจในปัญหาของนักเรียนอย่างแท้จริง ฤทธิยะวรรณาลัยในวันนี้คงไม่มีความแตกต่างจากฤทธิยะวรรณาลัยในอดีตอย่างแน่นอน