ประวัติ: ปี พ.ศ. 2522 พระครูสุวรรณสุทธารมย์ เจ้าอาวาสวัดทองสุทธาราม มอบที่ดินของวัดทองสุทธาราม จำนวน 6 ไร่ เพื่อสร้างโรงเรียน และเปิดสอนตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2522
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่เลขที่ 279/1 ซอยสิทธิชัย ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ปัจจุบัน: โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนในระบบสหศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนชาย-หญิงรวม 1,168 คน มีครู-อาจารย์ จำนวน 68 คน และมีนางสาวสุมาลี เถียรทอง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน
สัญลักษณ์ของโรงเรียน: พระพุทธสุวรรณ
ปรัชญาของโรงเรียน: “เรียนดี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม”
บางส่วนของ
โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา
... การหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธ
ที่จะรับเยาวชนบางคนที่มีปัญหาเข้ามาสู่รั้วของโรงเรียน
เท่ากับเป็นการผลักภาระไปสู่สังคม
และสร้างปัญหาให้แก่ชุมชนและแก่ประเทศชาติมากขึ้นไปอีกด้วย
โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา ตั้งอยู่ในซอยสิทธิ์ชัย ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ย่านบางซื่อ ซึ่งเป็นย่านที่มีสภาพแวดล้อมการระบาดของสารเสพติดมากแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลหรือที่เรียกว่า “หนึ่งในพื้นที่สีแดง” เพราะบริเวณโดยรอบของโรงเรียนนั้นรายล้อมไปด้วยชุมชนแออัดมากมายที่ครอบครัวมีปัญหายากจนและความแตกแยก เช่น ชุมชนวัดเลียบ ชุมชนตึกแดง ชุมชนริมทางรถไฟบางซ่อน เป็นต้น
ชุมชนแออันเหล่านี้นับเป็นแหล่งรวมอบายมุขต่างๆ มากมาย เช่น การมั่วสุม เล่นการพนัน ลักขโมย ทะเลาะวิวาท คนกลางคืน และสารเสพติดชนิดต่างๆ กอปรกับค่านิยมของความฟุ้งเฟ้อต่อวัตถุหรือการแต่งตัว จึงทำให้วัยรุ่นหรือบุคคลบางกลุ่มที่อยู่ในชุมชนเหล่านี้ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเสพติด เป็นต้น
โรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา เป็นโรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการจึงถือเป็นนโยบายที่ทุกโรงเรียนในสังกัดต้องปฏิบติอย่างเคร่งครัด อีกทั้งการหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธที่จะรับเยาวชนบางคนที่มีปัญหาเข้ามาสู่รั้วของโรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา เท่ากับเป็นการผลักภาระไปสู่สังคมและสร้างปัญหาให้แก่ชุมชนและแก่ประเทศชาติมากขึ้นไปอีกด้วย ดังนั้น คณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนจึงได้ยึดถือและปฏิบัติต่อนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในการรณรงค์ ป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดทั้งภายในโรงเรียนและบริเวณชุมชนนอกโรงเรียนกันอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม โดยจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไข และสร้างเครือข่ายผู้ปกครอง ตลอดจนบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วม สนับสนุน และส่งเสริมกิจกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การจัดครูอาสาสมัครในการออกเยี่ยมเยีอนบ้านพักอาศัยของนักเรียนตามชุมชนต่างๆ เพื่อพบผู้ปกครองของนักเรียน จากนั้นจะพูดคุยให้ความรู้ความเข้าใจในโทษภัยของสารเสพติดตลอดจนค่านิยมที่ถูกต้อง และให้ผู้ปกครองหันมาช่วยกันดูแลนักเรียนและชุมชนของตนให้ปลอดจากสารเสพติดมากขึ้น และกิจกรรมนี้มีครู-อาจารย์ถึง 20 คน ได้รับเกียรติบัตรเนื่องจากมาทำงานให้แก่โรงเรียนแชะชุมชนโดยไม่ประสงค์จะลาหยุดเลยในรอบปี และได้ทำให้ผู้ปกครองสร้างเครือข่ายและขยายความร่วมมือจนมีจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดปัญหาสารเสพติด ปัญหาครอบครัว และอบายมุขต่างๆ จากชุมชนของตนได้มากด้วย
นอกจากนี้คณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมเพื่อคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับสารเสพติดแยกออกจากนักเรียนกลุ่มปกติ โดยการใช้เครือข่ายครู-อาจาย์ และคณะกรรมการนักเรียนและอยู่เวรตามจุดต่างๆ เพื่อสังเกตและสอดส่องพฤติกรรมนักเรียน และเมื่อได้นักเรียนที่เสพหรือเกี่ยวข้องกับสารเสพติดแล้ว ก็จะเข้าโครงการบำบัดทั้งภายในโรงเรียนและส่งไปยังสถานพยาบาลภายนอก จากนั้นก็จะให้นักเรียนกลับเข้ามาศึกษาตามเดิมจนจบออกไป และยังใช้เครือจ่ายผู้ปกครองและครูได้ติดตามประเมินผลนักเรียน เหล่านั้นว่ายังมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับสารเสพติดอีกหรือไม่
สำหรับโครงการที่นับว่าประสบผลสำเร็จมากและสามารถลดจำนวนนักเรียนที่ใช้สารเสพติดและจำหน่ายสารเสพติดได้เป็นอย่างดีก็คือ โครงการ Teen as Teacher (กิจกรรมอบรมนักเรียนแกนนำ) , We are smart (กิจกรรมนักเรียนแกนนำพี่สอนน้อง) , Friend for friend (กิจกรรมการอบรมเยาวชนแกนนำกลุ่มปิยะมิตร) , กิจกรรมต้อนรับและส่งนักเรียนกลับบ้าน และกิจกรรการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เนื่องจากกิจกรรมต่างๆ ในโครงการเหล่านี้ ได้สร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้นักเรียนไปเกี่ยวข้องกับสารเสพติดทั้งในโรงเรียน นอกโรงเรียน และในชุมชน โดยมีการจัดบอร์ดนิทรรศการให้ความรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน ได้มีการจัดอบรมนักเรียนแก่นนำรุ่นพี่ให้มีความรู้ความเข้าใจในปัญหาและพิษภัยของสารเสพติดและการป้องกันแก้ไข จากนั้นจึงได้ขยายฐานความรู้ไปสู่รุ่นน้องระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-4 โดยนักเรียนรุ่นพี่อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการรณรงค์ ป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของสารเสพติตภายในโรงเรียนและบริเวณชุมชนนอกโรงเรียนอย่างจริงจังของคณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยา ทำให้เกิดคณะกรรมการนักเรียนเครือข่ายผู้ปกครองเครือข่าย และการประสานความร่วมมือจากบุคคลและหน่วยงานภายนอก โดยเฉพาะคณะกรรมการนักเรียนและนักเรียนเครือจ่ายจากกิจกรรม We are smart ได้ทำให้นักเรียนต้นพบความสามารถของตนเองในการเป็นผู้นำ ในการดูแลรับผิดชอบนักเรียนรุ่นน้องเพื่อรับ-ส่งตอนเช้าและตอนกลับบ้าน และขณะอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน ตลอดจนเกิดวัฒนธรรมในการช่วยเหลือดูและซึ่งกันและกันภายในชุมชน ทำให้บุคคลในชุมชนมีคุณธรรมจริยธรรมและตระหนักถึงโทษภัยและปัญหาของสารเสพติดซึ่งจะมีผลกระทบต่อลูกหลาน ต่อสังคม และต่อประเทศชาติมากยิ่งขี้น และได้ช่วยกันสอดส่งองดูแลเยาวชนภายในชุมชนไม่ให้มีการมั่วสุม หรือยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด โดยการประสานงานกับโรงเรียน สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น และศูนย์ 19 วงศ์สว่าง เพื่อขอความร่วมมือในกรณีพบเห็นแล้วไม่สามารถป้องปรามให้เลิกพฤติกรรมได้ จึงทำให้ปัจจุบันโรงเรียนสุวรรณสุทธารามวิทยามีนักเรียนที่เข้าไปข้องเกี่ยวกับสารเสพติดน้อยมากและกำลังจะหมดไปในที่สุด