ReadyPlanet.com
dot dot
dot
เกี่ยวกับมูลนิธิฯ
dot
bulletที่มาของมูลนิธิฯ
bulletวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ
bulletคณะกรรมการฯ ชุดก่อตั้ง
bulletคณะกรรมการฯ ชุดปัจจุบัน
bulletบริจาคสมทบทุนมูลนิธิฯ
dot
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
dot
bulletกระทรวงศึกษาธิการ
bulletกระทรวงวัฒนธรรม




โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา (รางวัลฯ ชมเชย) article

ประวัติ:

  • ปี พ.ศ. 2504 ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดจังหวัดพระนคร ชื่อว่า “โรงเรีนยประชาราษฎร์อุปถัมภ์”
  • ปี พ.ศ. 2516 ได้โอนไปสังกัดกองการประถมศึกษา กรมสามัญศึกษา
  • ปี พ.ศ. 2517 ได้เปลี่ยนจากโรงเรียนประถมศึกษาเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา
  • ปี พ.ศ. 2521 โอนย้ายไปสังกัดกองการมัธยมศึกษา กรมสามัญศึกษา
  • ปี พ.ศ. 2546 ได้เปลี่ยชื่อจากโรงเรยนประชาราษฎร์อุมถัมภ์ เป็น “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ รัชดา”
     

สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ถนนรัชดาภิเษก  แขวงสามาเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

ปัจจุบัน:  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนในระบบสหศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษา เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นถึงมัธยมศึกษาตอยปลาย  มีนักเรียนชาย-หญิงรวม 2,000 คน มีครู-อาจารย์ จำนวน 98 คน และมีนายสมพงษ์ พลสูงเนิน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน

สัญลักษณ์ของโรงเรียน: “ตราพระเกี้ยว” พระเกี้ยว หมายถึง เครื่องประดับพระเมาลี (จุก) ของพระราชโอรสและพระราชธิดา  และเป็นตราสัญลักษณ์ที่ประทับบนหนังสือราชการประจำรัชกาลของ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ

คติพจน์ของโรงเรียน: “เรียนดี กีฬาดี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม”


บางส่วนของ
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

... ในช่วงแรกครู-อาจารย์ส่วนใหญ่
ไม่มีความรู้ในการเผ้าระวังหรือป้องกันการเสพยาบ้าของนักเรียน
อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายเอาผิดกับผู้บริหารที่มีนักเรียนใช้หรือเสพยาบ้า
จึงไม่ได้ข้อมูลที่แท้จริงว่ามีผู้เสพยา ค้ายา ในโรงเรียน

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตันต้นถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ยนเนื้องที่ 10 ไร่ 90 ตาราวา บนถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร มีอาคารเรียน 4 หลัง ห้องเรียน 50 ห้อง ห้องพิเศษ 32 ห้อง อาคารฝึกงาน 1 หลัง 6 ห้อง มีสนามกีฬา สนามอเนกประสงค์และภูมิทัศน์บริเวณภายในโรงเรียนที่ร่มรื่น สวยงาม

สภาพแวดล้อมภายนอกของโรงเรียน  โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด  ได้กำหนดพื้นที่เขตห้วยขวางดินแดงและคลองเตย เป็นพื้นที่สีแดง หมายถึง มีการแพร่ระบาดของสารเสพติด  โดยเฉพาะยาบ้ารุนแรง และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา มีสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงนี้  ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว  ด้วยบริเวณชุมชนรอบๆ โรงเรียนที่การจำหน่ายยาบ้าอย่างแพร่หลาย  ซึ่งในการจับกุมของตำรวจแต่ละครั้ง  สามารถยึดยาบ้าได้เป็นจำนวนมาก สิ่งแวดล้อมภายนอกที่ก่อให้เกิดปัญหาอีกประการหนึ่งคือ โรงเรียนอยู่ในพื้นที่แหล่งบันเทิงและอบายมุข  มีสถานเริงรมย์ที่เป็นที่นิยมและเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นมากที่สุด  มีห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก  ทำให้นักเรียนฟุ่มเฟือยจ่ายเกินตัวและเที่ยวเตร่ยามวิกาล

คณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนจึงมีนโยบายเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดในโรงเรียนอย่างจริงจัง  ส่วนปัญหาของชุมชนซึ่งโรงเรียนไม่สามารถแก้ปัญหาได้โดยลำพัง  โรงเรียนจึงให้ความมือในการประสานงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องกับหน่วยงานต้นสังกัด  สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ดินแดงและสุทธิสาร ป.ป.ส. สำนักงานเขตห้วยขวาง วัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน  อีกทั้งโรงเรียนได้มีส่วนร่วมในการให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสารด้านพิษภัยอันตรายของสารเสพติดแก่ผู้ปกครอง นักเรียน ประชาชนในชุมชน และจึดกิจกรรมร่วมกับชุมชน เช่น จัดแสดงศิลปะ ดนตรี แข่งขันกีฬา ทำบุญตักบาตร ร่วมกิจกรรมกับชุมชนเนื่องในโอกาสหรืองานเทศกาลต่างๆ

นักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา มาชากชุมชนรอบโรงเรียน จาสภาพแวดล้อมของอบายมุขและสารเสพติด  มีฐานุยากจนถึงปานกบาง สภาพครอบครัวแตกแยก  ไม่มีงานทำทำให้นัเรียนมีสิสัยก้าวร้าว ไม่ตั้งใจเรีย อ่อนเรียน หรือเรียนไม่ทันเพื่อน  จึงหันไปเที่ยวเตรี คบเพื่อนและใช้สารเสพติดในที่สุด

คณะครู-อาจารย์ ผู้บริหารโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา และผู้ปกครองซึ่งตระหนักถึงอันตราย พิษภัย และการแพร่ระบาดของสารเสพติดที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและชุมชน  จึงได้ผนึกกำลังและร่วมมือกันศึกษาสภาพปัญหาของนักเรียน  การดำเนินงานของโรงเรียน และสถานการณ์การแพร่ระบาดของสารเสพติด  จากนั้นจึงได้จัดให้มีการประชุม อบรม สัมมนา เพื่อให้ความรู้แก่บุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงภูมทัศน์ และปรับพื้นที่บางส่วนที่เป็นมุมอับเพื่อลดการมั่วสุมหรือใข้สารเสพติดของนักเรียน  เสริมสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้เอื้อต่อบรรยากาศในการเรียนรู้  เพื่อให้นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข

ในอดีตที่ผ่านมาระหว่างปีการศึกษา 2535-2537 ปัญหาด้านการใช้สารเสพติดในโรงเรียนมีการให้กาวและสารระเหย  และดูเหมือนการดูแลแก้ไขป้องกัน จะเป็นหน้าที่ของครู-อาจารย์ผ่ายปกครองเท่านั้น

ต่อมาในปีการศึกษา 2538-2539 ได้มีการแพร่ระบาดของเฮโรอียนเข้ามาในโรงเรียน  แต่ปัญหาไม่รุนแรง  มีนักเรียนเสพน้อยมาก  ไม่มีการจำหน่ายเพราะครู-อาจารย์มีความรู้ในการเฝ้าระวังและป้องกันมากขึ้น  แต่ก็ยังเป็นความความรับผิดขอบเพียงครู-อาจารย์ฝ่ายปกครองเป็นส่วนใหญ่

กระทั่งในปีการศึกษา 2539-2542 มีการแพร่ระบาดของยาบ้าเข้ามาในโรงเรียนอย่างรุนแรง  เนื่องจากผู้ค้าได้เปลี่ยนเป้าหมายในการจำหน่ายยาบ้าให้กับผู้ใช้แรงงานมาเป็นนักเรียน  และยาบ้ามีราคาถูกว่าเฮโรอีน  กอบปรกับวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้ อยากลอง ไม่มีทักษาะในการปฏิเสธเพื่อน และมีปัญหาส่วนตัวอยู่แล้ว  จึงทำให้ยาบ้าแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงแรกครูอาจารย์ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ในการเฝ้าระวังหรือป้องกันการเสพยาบ้าของนักเรียน  อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายเอาผิดกับผู้บริหารของโรงเรียนที่มีนักเรียนใช้หรือเสพยาบ้า  จึงไม่ได้ข้อมูลที่แท้จริงว่ามีผู้เสพยา ค้ายา  ต่อมาครู-อาจารย์เล็งเห้นว่าปัญหาสารเสพติดเป็นปัญหาใกล้ตัว  เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน  จึงได้มีการศึกษาวิเคราะห์ปัญหา  ช่วยกับป้องกันและแก้ไชปัญหา  คัดกรองนักเรียนโดยจำแนกออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่นักเรียนกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มใช้หรือเสพยา และกลุ่มค้ายา  เพื่อความเหมาะสมในการดูแลช่วยเหลือ   ซึ่งได้ตรวจพบนักเรียนที่ใช้และเสพยาบ้า ค้ายา  จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนที่มีปัญหา  ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม  ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเข้าค่ายพัฒนาคุณธรรม อบรมสัมมนานักเรียนแกนนำเพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ถึงพิษภัยของสารเสพติด  มีทักษะในการดูแลตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้  และยังขยายความรู้ความเข้าใจไปสู่เพื่อนนักเรียนด้วยกัน  กิจกรรมตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด  กิจกรรมบำบัดฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนกลุ่มเสี่ยง

สำหรับกิจกรรมการดูแลและช่วยเหลือนักเรียน  นับเป็นกิจกรรมที่คณะครู-อาจารย์  และผู้บริหารของโรงเรียนมีความภาคภูมิใจและประสบความสำเร็จมากที่สุด  เพราะสามารถพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม  และมีวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง  อีกทั้งสามารถพัฒนากระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบที่ชัดเจนและประเมินผลได้  ปัญหาของนักเรียนได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและใกล้ชิด  ความสัมพันธ์ระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครอง อบอุ่นเป็นไปด้วยดี  นักเรียนรู้จักคตนเองและเพื่อนมากยิ่งขึ้น  ได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและมีทักษะการดำรงชีวิตที่ดี

นอกจากนี้  ยังได้จัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดในโรงเรียนและชุมชน  ได้สำรวจความต้องการในการร่วมกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียน  ทั้งนักเรียนกลุ่มปกติและนักเรียนที่ได้รับการบำบัดจนเลิกเสพแล้ว   โดยได้สนับสนุนและจัดกิจกรรมจนประสบความสำเร็จอย่างสูง เช่น ด้านศิลปะการวาดภาพและสิ่งประดิษฐ์ ด้านดนตรีสากล ไทยสากล ลูกทุ่ง และวงโยธวาทิต  และด้านกีฬาประเภทต่างๆ และยังได้กำหนดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ปัญหาในระยะยาวอีกด้วย เช่น ศูนย์ฮอตไลน์คลาดเครียด และงานชุมชนสัมพันธ์ เป็นต้น

การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติดของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา  นับว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย เพราะสามารถผนึกกำลังผู้บริหาร ครู-อาจารย์ นักเรียนผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ พระสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน  ได้หันมาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและป้องกันอย่างจริงจัง  จนสามารถแก้ไขพฤติกรรมนักเรียนกลุ่มเสี่ยงได้เกือบหมด  นักเรียนที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติดเต็มใจขอความช่วยเหลือดูแลรักษาและบำบัดด้วยตนเอง  การนำสารเสพติดมาจำหน่ายแจกให้ผู้อื่นในโรงเรียนแทบจะตรวจไม่พอนักเรียนส่วนใหญ่ช่วยกันสอดส่องดูแลแจ้งขัอมูลข่าวสารแก่ครู-อาจารย์ให้ทราบ  และยังช่วยให้คำปรึกษาและเป็นตัวอย่าที่ดีแก่เพื่อนนักเรียนด้วยกัน  อีกทั้งช่วยเผยแพร่ความรู้ด้านพิษภัยและสถานการณ์การแพร่ระบาดของสารเสพติดนสู่ชุมชนด้วย




ทำเนียบรางวัลฯ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี ๒๕๔๕




Copyright © 2010 All Rights Reserved.
มูลนิธิธารน้ำใจ 107 – 115 ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 0-2721-3999 ต่อ 222, 223, 08-9983-8091, 09-0986-8398 โทรสาร 0-2721-3788 E-mail: info@tarnnamjai.org