ประวัติ: ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2490 โดยบรรดาพ่อค้า หรบดี ข้าราชการ และประชาชนชาวหนองแขม ซึ่งมีหลวงดรุณ กิจวิทฑูรย์ เป็นแกนนำ ได้ร่วมใจกันคั้งเป็นคณะกรรมการขึ้นเพื่อหาทุนสร้างโรงเรียนจนประสบผบสำเร็จ ทั้งนี้ เพื่อรองรับนักเรียนที่จบจากโรงเรียนประชาบาลแล้วหาสถานที่เรียนต่อในชั้นสูงได้ยาก เพราะอยู่ไกลโดยมีพระครูเขมาภิวัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส และกระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งให้ นายแสวง สุขะหุต ครูตรีโรงเรียนวัดรางบัว มารักษาการในคำแหน่งครูใหญ่ตรี จนเกษียณอายุราชการเมื่อ พ.ศ. 2511
สถานที่ตั้ง: ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 91 หมู่ 8 ซอยเพชรเกษม 81 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 20 ไร่ 40 ตารางวา
ปัจจุบัน: โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม เป็นโรงเรียนประเภทสหศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนระดับชั้นมัธยนศึกษาตอนตันถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนชาย-หญิงรวม 3,289 คน มีครู-อาจารย์ จำนวน 134 คน และมีนายเจริญ เลื่อนธรรมรัตน์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน
สัญลักษณ์ของโรงเรียน: เป็นรูปเสมาธรรมจักร มีอักษรย่อคือ น.ข. อยู่ภายใน
ปรัชญาประจำโรงเรียน: “โรงเรียนย่อมประกอบด้วยร่างกาย ชีวิต จิตใจ”
บางส่วนของ
โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม
... เราจะพยายามทุ่มเทแรงการยแรงใจ
ด้วยจิตวิญญานของความเป็นครู และสำนึกในหน้าที่
ที่จะปกป้องภัยให้นักเรียนรอดพ้นจากภัยยาเสพติดตลอดไป
โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม เป็นโรงเรียนประเภทสหศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ เปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ในซอยเพชรเกษม 81 หนองแขม มีนักเรียนชาย-หญิงรวม 3,289 คน สภาพแวดล้อมรอบโรงเรียนเป็นชุมชนแออัด ครอบครัวที่อาศัยอยู่ส่วนมากอพยพมาจากที่อื่นและมีรายได้ค่อนข้าต่ำ มีอาชีพรับจ้างทำงานตามโรงงานต่างๆ ที่อยู่รายรอบทั้งหนองแขมและสมุทรสาคร ดังนั้นจึงไม่มีเวลาในการอบรมดูแลบุตรหลานเท่าที่ควร ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้คนว่างงาน จึงทำให้การค้ายาเป็นทางเลือกที่จะทำให้ชีวิตอยู่รอด และลูกค้าที่จะทำรายได้ดี คือ นักเรียน
ในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ โรงเรียนถึงแม้จะมีสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น แต่ก็มีมุมอับที่พอจะเป็นแหล่งมั่วสุม หรือจำหน่ายสารเสพติด คือ บริเวณห้องน้ำ เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนมากจึงเป็นภาระหนักสำหรับครู-อาจารย์ในการสอดส่องดูแล และสารเสพติดที่สามารถตรวจพบจากนักเรียน อาทิ บุหรี่ กัญชา ยาบ้า ฯลฯ ซึ่งนักเรียนบางคนมีอาการติดยาขั้นรุนแรงถึงขนาดต้องนำส่งไปบำบัดที่โรงพยาบาล
นอกจากแหน่งจำหน่ายที่มีอยู่ตามขุมชนภายนอกโรงเรียนแล้ว ที่บริเวณตลาดใกล้โรงเรียน หรือบริเวณรั้วของโรงเรียนก็ยังแอบมีการส่งมอบเพื่อนำเข้ามาจำหน่ายภายในโรงเรียน ซึ่งนักเรียนบางคนไม่สามารถซื้อหามาเสพได้เนื่องจากยามีราคาแพงขึ้น จึงได้ผันตัวเองไปเป็นผู้ค้าแทน และได้ชักชวนให้นักเรียนคนอื่นลองทีละน้อยจนติด ก็จะทำให้ลูกค้าเพื่อมากขึ้น ประกอบกับนักเรียนบางคนที่ซื้อไปจะนำไปเสพนอกโรเงรียนจึงทำให้ยากในการตรวจพบ
คณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม จึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เริ่มตั้งแต่การคัดกรองนักเรียนตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยอาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน ต่อนักเรียน 25 คน และออกเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคนเพื่อดูแลนักเรียนให้ถ่องแท้ตามสภาพจริง เพื่อจะได้ประสานงานกับผู้ปกครองได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
หลังจากที่คัดกรองนักเรียนที่มีพฤติกรรมโดยแบ่งเป็นนักเรียนกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพและกลุ่มปัญหาอื่นๆ จากนั้นจะเน้นการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มากที่สุด พร้อมทั้งให้คำปรึกษาและทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและนักเรียนที่ปัญหาด้วยความเห็นอกเห็นใจ และนำนักเรียนที่ใช้สารเสพติดพบแพทย์เป็นระยะๆ หรือส่งไปบำบัดที่โรงพยาบาลธัญญรักษ์ จังหวัดปทุมธานี และให้การดูแลอย่างใกล้ขิดเพื่อคืนคนดีให้สังคม พร้อมทั้งจัดให้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะเป็นระยะๆ เพื่การป้องปรามไม่ให้นักเรียนไปเสพสารเสพติด โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลศูนย์ 48 และสถานีตำรวจนครบาลหนองแขม นอกจากนี้ยังได้ตั้งขมรมนักเรียนแกนนำหลากหลายเพื่อให้นักเรียนเลือกตามความสนใจและจัดนักเรียนแกนนำทุกปีเพื่อขยายเครือข่ายแกนนำในโรงเรียน และยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียนตามศักยภาพ เพื่อให้นักเรียนเห็นคุณค่าของตนเอง เช่น การแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ตามความสนใจ เพื่อไม่ให้นักเรียนมีเวลาว่างมากเกินไปแล้วอาจหันไปทดลองหรือเสพสารเสพติด
สำหรับกิจกรรมภายนอกโรงเรียน คณะครู-อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียน ได้สร้างเครือข่ายชุมขนโดยการประสานกับผู้นำท้องถิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวยสถานีตำรวจนครบาลหนองแขม หน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชน ตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดิน ในการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้เยาวชนผู้หลงผิดและคิดกลับใจที่ศูนย์สร้างพลังใจเขตหนองแขม และได้รณรงค์ให้ความรู้โดยแจกเอกสารเผยแพร่เกี่ยวกับสารเสพติดสู่ชุมชนเป็นระยะๆ ตลอดปี นอกจากนี้ในข่วงปิดภาคเรียนโรงเรียน ยังจัดให้มีการสอนวิชาชีพแก่ผู้สนใจในชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกในการหารายได้โดยสุจริตซึ่งผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและทำให้ผู้อาศัยอยู่ในชุมชนหันหลังให้กับสารเสพติด
ทางโรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม ยังได้จัดครูและนักเรียนแกนนำออกไปเผยแพร่ความรู้ในด้านยาเสพติดและจัดกิจกรรมให้กับโรงเรียนระดับประถมศึกษาเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี และได้นำนักเรียนออกพัฒนาวัดและชุมชนในโอกาสต่างๆ ทั้งยังช่วยดูแลลูกหลานและเยาวชนในชุมชนไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสารเสพติดอีกด้วย
จากการดูแลเอาใจใส่ขอบคณะครู-อาจารย์ ผู้บริหาร ตลอดจนนักเรียนและหน่วยงานภายนอก โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกฝ่ายอย่างดียิ่ง มีผลทำให้การแก้ไขปัญหาสารเสพติดประสบความสำเร็จด้วยดี คณะครู-อาจารย็ และผู้บริหาร จึงเกิดปณิธานร่วมกันว่า “เราจะพยายาทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู และสำนึกในหน้าที่ที่จะปกป้องภัยให้นักเรียนรอดพ้นจากภัยยาเสพติดตลอดไป”