คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๐
นายสุชีพ ปุญญานุภาพ
การส่งเสริมและเผยแผ่พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้ที่จะปฏิบัติได้ดีจะต้องเสียสละอุทิศตน ศึกษาหาความรู้อย่างรู้แจ้งเห็นจริงทั้งทางโลกและทางธรรม สามารถนำหลักวิชาการสมัยใหม่ มาประยุกต์กับหลักธรรม จนทำให้คนทั่วไปมองเห็นพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนามีความทันสมัยน่าสนใจ บุคคลผู้ซึ่งได้ดำเนินการดังกล่าวประสบผลสำเร็จมาแล้ว คือ “นายสุชีพ ปุญญานุภาพ”
นายสุชีพ ปุญญานุภาพ เป็นชาวอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ปัจจุบันอายุ ๘๐ ปี เมื่อศึกษาวิชาสามัญจบชั้นประถมปีที่ ๕ ได้บรรพชาเป็นสามเณรเพื่อศึกษานักธรรมและบาลี ย้ายเข้ามาพำนักที่วัดกันมาตุยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร สอบไล่ได้นักธรรมเอก และบาลี ได้เป็นเปรียญธรรม ๗ ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร ในปี พ.ศ. ๒๔๘๐ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้รับฉายาว่า “สุชีโว” สอบไล่เป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค ในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ระหว่างเวลาที่ผ่านมา ได้พยายามศึกษาหาความรู้ในวิทยาการใหม่ ๆ ที่มีในขณะนั้น มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีในภาษาอังกฤษ บาลีสันสกฤต ได้พยายามถ่ายทอดความรู้ไปสู่พระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไป ทั้งยังได้ประพันธ์นวนิยายอิงหลักธรรมออกเผยแพร่ในหนังสือต่าง ๆ โดยเขียนถ้อยคำสำนวนที่กะทัดรัด เข้าใจง่าย ทำให้คนทั่วไปเข้าใจพระพุทธศาสนาได้ดีและง่ายขึ้น
หนังสือที่เขียนขึ้นมีจำนวนมาก เช่น ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ กองทัพธรรม ลุ่มน้ำนัมมทา เชิงผาหิมพานต์ อาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก เป็นต้น นอกจากการเขียนนวนิยายอิงหลักธรรมแล้ว ได้ดำเนินการเทศนาสั่งสอนหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาแนวใหม่ที่ทันสมัย จนเป็นที่นิยมชมชอบของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศในขณะนั้น ในกิจกรรมทางสงฆ์ ก็ได้ช่วยงานอย่างเต็มที่ นายสุชีพฯ เป็นผู้เสนอแนวคิดและผลักดันให้มีการก่อตั้งสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัยฯ มหาวิทยาลัยพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัยฯ เป็นรูปแรก ในขณะดำรงสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่พระศรีวิสุทธิญาณ นอกจากนั้นท่านยังได้ทำประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมาก เช่น สนับสนุนให้คนหนุ่มรวมกลุ่มกันตั้งเป็นยุวพุทธิกสมาคม เป็นต้น
นายสุชีพ ปุญญานุภาพ ลาสิกขา ในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ เข้ารับราชการในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ต่อมาภายหลังไปปฏิบัติงานที่องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ช่วยผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ ตามลำดับ ได้ทำประโยชน์ในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี จนกระทั่งเกษียณอายุในปี พ.ศ. ๒๕๒๐
นายสุชีพ ปุญญานุภาพ ใช้ชีวิตในขณะเป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ ให้เป็นประโยชน์แก่ชาติและศาสนาเป็นอันมาก นับตั้งแต่ลาสิกขาก็ได้ช่วยงานโดยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บรรยายทางพระพุทธศาสนา ทีสภาการศึกษา มหามกุฎราชวิทยาลัยฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยรามคำแหง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ประพันธ์หนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น จัดทำพจนานุกรมศัพท์พระพุทธศาสนาไทย – อังกฤษ และอังกฤษ – ไทย ทำการย่อพระไตรปิฎก จาก ๔๕ เล่ม มาเหลือเล่มเดียว ชื่อ “พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน” ซึ่งมหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบมราชูปถัมถ์ ได้พิมพ์จำหน่ายในราคาเผยแผ่พระพุทธศาสนามากกว่าแสนเล่มแล้ว เป็นที่นิยมกันโดยทั่วไป ปัจจุบัน นายสุชีพ ปุญญานุภาพ เป็นกรรมการอำนวยการองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก รับผิดชอบช่วยเหลือทางด้านวิชาการ
นายสุชีพ ปุญญานุภาพ ได้ทุ่มเทเวลากว่า ๖๕ ปี ศึกษาเล่าเรียนทางพระพุทธศาสนา และสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย ได้มีความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนา และมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ นายสุชีพ ปุญญานุภาพ
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๐”