คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๖
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์
เพื่อให้เห็นความสำคัญของเด็ก จึงนิยมกล่าวกันว่า “เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” เด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่ยากจน หาเช้ากินค่ำ เติบโตขึ้นมาโดยขาดสารอาหาร ไม่แข็งแรงสมบูรณ์ ขาดการศึกษา ติดยาเสพติด เป็นเด็กเกเร ก่อปัญหาให้กับสังคมอย่างใหญ่หลวง ถึงแม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขในเรื่องนี้ ก็ยังมีช่องว่างอยู่อีกมาก ทำได้ไม่ทั่วถึง มีบุคคลคนหนึ่งเห็นความสำคัญของเด็ก เห็นเด็กเป็นทรัพยากรที่สูงค่า จึงเสียสละอุทิศตนเข้าช่วยแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น บุคคลคนนั้นคือ “นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์”
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อายุ ๓๘ ปี เกิดที่อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ จบชั้นประถมและมัธยมที่จังหวัดสุรินทร์ จบวิชาครูที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจบครุศาสตรบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเหตุที่บิดาเป็นชาวจีน ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย และทำโรงเจ นายวัลลภฯ จึงมีโอกาสเห็นงานสังคมสงเคราะห์ที่บิดาดำเนินการที่โรงเจ และได้เห็นนายทุน เอารัดเอาเปรียบชาวนาผู้ด้อยโอกาส จึงมีจิตใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
ระหว่างศึกษาอยู่ในคณะครุศาสตร์ นายวัลลภฯ ได้ช่วยสอนหนังสือเด็กในสลัม และออกค่ายอาสา ไปช่วยสอนเด็กชาวเขา เมื่อจบการศึกษาได้อาสาไปทำงานที่ “โรงเรียนบ้านเด็ก” จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ใช้หลักการปรัชญาซัมเมอร์ฮิลล์ของนายนีลฯ โดยให้อิสระทางด้านความคิดและการเรียนแก่เด็กนักเรียน ทำงานอยู่ได้สองปีครึ่ง จึงกลับมาทำงานในกรุงเทพฯ เรื่องแรกที่สนใจคือ “การศึกษาของลูกคนงานก่อสร้าง” โดยเริ่มเป็นผู้ประสานงานศูนย์เด็กก่อสร้าง มีการค้นหา เด็กที่ขาดสารอาหารมาดูแล เพิ่มเรื่องการศึกษาโดยการตั้งศูนย์การศึกษา ต่อมาเห็นว่าเด็กจะไม่ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อเสร็จการก่อสร้าง พ่อแม่ของเด็กก็ย้ายไปทำงานที่อื่น นายวัลลภฯ จึงหาเช่าที่ตั้งศูนย์รับเด็กก่อสร้างมาอยู่ประจำ ปรากฏว่าสถานที่คับแคบ เด็กเพิ่มมากขึ้น ทั้งเด็กก่อสร้างและเด็กในกรณีอื่น จึงคิดที่จะจัดตั้งมูลนิธิ เริ่มแรก นายวัลลภฯ ได้รับเงินสนับสนุนจาก “องค์กรอนุเคราะห์เด็ก จาก นอร์เวย์” เพียงแห่งเดียว ในการจัดตั้งศูนย์เด็กก่อสร้างและบ้านอุปถัมภ์เด็ก ต่อมาได้สร้างศูนย์เพิ่มอีก ๕ ศูนย์ ในที่สุดได้ริเริ่มจัดตั้ง “มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก” โดยกระทรวงมหาดไทย ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๑ โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นเลขาธิการดำเนินงาน มูลนิธิฯ ได้ขยายงานออกไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ รวม ๑๐ โครงการคือ โครงการบ้านอุปถัมภ์เด็ก โครงการศูนย์เด็กก่อสร้าง โครงการครูข้างถนน โครงการบ้านสร้างสรรค์เด็ก โครงการเด็กใกล้วัด โครงการคุ้มครองเด็ก โครงการความรู้เคลื่อนที่สู่ชุมชน โครงการติดตามและช่วยเหลือเด็ก โครงการศูนย์ข้อมูลและวิจัยเพื่อช่วยเหลือเด็ก โครงการทุนการศึกษาเพื่อเด็กในชนบท นายวัลลภฯ นอกจากจะเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์ฯ แล้ว ยังเป็นเลขาธิการผู้ดำเนินการงานโดยใกล้ชิด ด้วยความอดทนและเสียสละมาโดยตลอด โดยมีความตั้งใจที่จะพัฒนาเด็กผู้ด้อยโอกาส เป็นปัญหาและภาระต่อสังคมให้กลับมีโอกาสเช่นเด็กที่ดีทั่วไป และให้มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายต่อไป
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๖”