คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๖
แพทย์หญิงวัฒนีย์ เย็นจิตร
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง มีจิตใจเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ช่วยเหลือคนไข้ให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน โดยไม่มีใครบังคับหรือหวังผลตอบแทนใด ๆ สมดังพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าล้นกระหม่อมรัชกาลที่ 6 “อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน” แพทย์ผู้มีความกรุณาปรานีตามพระราชนิพนธ์ที่อัญเชิญมานี้ คือ “แพทย์หญิงวัฒนีย์ เย็นจิตร”
แพทย์หญิงวัฒนีย์ เย็นจิตร อายุ ๔๖ ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร จบแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับประกาศนียบัตรชั้นสูงทางคลินิก ตา หู คอ จมูก จากมหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาโรคตาต่อที่สหรัฐอเมริกา ได้อนุมัติบัตรผู้เชี่ยวชาญทางจักษุวิทยา และเป็นภาคีสมาชิกเกี่ยวกับม่านตาสองสถาบัน ปัจจุบันเป็นนายแพทย์ระดับ ๘ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรม สาขาจักษุวิทยา โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ฯ นับตั้งแต่เข้าทำงานในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้นำความรู้ความชำนาญ ช่วยเหลือคนไข้ที่เจ็บป่วยทางตาซึ่งยากจนจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือจำนวนมาก ทำการผ่าตัดโรคตาทุกชนิด จนถึงการผ่าตัดจอประสาทตา เครื่องมือและสิ่งอุปกรณ์ของทางราชการไม่เพียงพอ ได้ขอความร่วมมือจากประชาชน ที่เคารพนับถือรวมกับเงินค่าผ่าตัดคนไข้ที่คลินิกส่วนตัว จนสามารถซื้อเครื่องมือที่ขาดแคลนโดยไม่ต้องใช้งบประมาณของทางราชการ เครื่องมือสำคัญที่หามาได้ เช่น เครื่องมือผ่าตัดน้ำวุ้น เครื่องเลเซอร์ โรงพยาบาลลำปางผ่าตัดตาปีละ ๕๐๐ ราย หากเฉลี่ยตามจำนวนแพทย์แล้ว เป็นโรงพยาบาลที่ผ่าตัดมากที่สุดในบรรดาโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข
ด้วยความห่วงใยประชาชนผู้ยากไร้ในชนบท แพทย์หญิงวัฒนีย์ฯ จึงจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจรักษาโรคตามาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ จนกระทั่งปัจจุบันทำมาแล้ว ๔๖ ครั้ง และได้ถือโอกาสอบรมอาสาสมัครสาธารณสุข ให้รู้จักการดูแลรักษาตาเบื้องต้นทุกหมู่บ้าน และเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายสำหรับคนไข้โรคตาที่ยากจน จึงได้จัดตั้ง “มูลนิธิพิทักษ์ดวงตา” ขึ้น โดยตนเองและญาติผู้ใหญ่บริจาคเงินเป็นทุนเริ่มต้น นอกจากนั้น ขณะนี้แพทย์หญิงวัฒนีย์ฯ กำลังดำเนินโครงการ “ศูนย์ฝึกอาชีพคนตาบอดภาคเหนือ” ที่จังหวัดลำปาง มีผู้บริจาคที่ดินให้ ๔ ไร่ และมีเงินที่จะดำเนินโครงการ ได้ส่งนักเรียนตาบอดรุ่นแรก จำนวน ๘ คน ไปศึกษาเพื่อกลับมาเป็นครู ด้วยความพยายามของแพทย์หญิงวัฒนีย์ฯ ทำให้เกิด “ศาสาสุขสัมผัส” ซึ่งเป็นสถานบริการนวดแผนโบราณโดยคนตาบอดขึ้น
ผลงานด้ายวิชาการ ได้ร่วมก่อตั้ง “มูลนิธินายน้อย – นางลางสาด คมสัน” เพื่อใช้ดอกผลสนับสนุนให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางสาธารณสุข ไปศึกษาเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ แพทย์หญิงวัฒนีย์ฯ ได้เป็นผู้สอนและฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ ได้เขียนบทความทางวิชาการเพื่อเป็นวิทยาทานลงในวารสารทั้งในและนอกประเทศมากกว่า ๔๒ เรื่อง มีนักศึกษาและจักษุแพทย์จากต่างประเทศมาดูงาน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่โรงพยาบาลลำปางกับแพทย์หญิงวัฒนีย์ฯ อยู่เสมอ
ความเพียรพยายามสร้างสรรค์ และทุ่มเทกำลังกาย กำลังทรัพย์ และกำลังสติปัญญา ของแพทย์หญิงวัฒนีย์ เย็นจิตร โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากของตนเอง เป็นการเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อคนอื่นด้วยความเมตตากรุณา ทำให้คนจำนวนมากพ้นจากความมืดมนไปสู่ความสว่าง พ้นจากความทุกข์ทรมาน ทำให้คุณภาพชีวิตสดใสขึ้น เป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ แพทย์หญิงวัฒนีย์ เย็นจิตร
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๖”