คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
นายพิศาล บุญผูก
บุคคลโดยทั่วไป จะทำงานตามตำแหน่งหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายหรือตามคำสั่งของหัวหน้างาน ทั้งนี้เพื่อรับสิ่งตอบแทนตามผลงานที่ปฏิบัติ แต่ยังมีบุคคลหนึ่งซึ่งสมัครใจทำงานนอกเหนือหน้าที่ตามอุดมการณ์ของตน เพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ตลอดจนมีความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม อันเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติไว้ โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น บุคคลผู้นั้นคือ “นายพิศาล บุญผูก”
นายพิศาล บุญผูก อายุ ๔๙ ปี เกิดที่บ้านเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สำเร็จนิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประกาศนียบัตรการพัฒนาสังคมชนบทจาประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันทำงานรัฐวิสาหกิจในตำแหน่งหัวหน้างานส่งเสริมกิจกรรม หรือเรียกชี่อย่อว่า “คิวซี” (Q.C.) ในกองกลาง ฝ่ายอำนวยการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อจบกฎหมายแล้ว ได้เข้ารับราชการในส่วนของจ่าศาลฎีกาเป็นเวลา ๕ ปี แต่พิจารณาเห็นว่างานไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะมีความตั้งใจจะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาชนบท เมื่อมีโอกาสจึงไปศึกษาการพัฒนาสังคมชนบท ที่ประเทศฟิลิปปินส์ กลับมาก็เข้าทำงานที่ธนาคารเพี่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อรับหน้าที่พนักงานสินเชื่อประจำสาขานนทบุรี ก็เริ่มทำงานในสิ่งที่เคยตั้งใจไว้ โดยเริ่มจัดโครงการพัฒนาเกษตรกร มีวัตถุประสงค์ให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพทันตามการเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยี ให้เกษตรกรใช้เวลาว่างประกอบอาชีพอื่นเพื่อเสริมรายได้ ให้เกษตรกรรู้จักรวมตัวกัน เพื่อช่วยกันในการประกอบอาชีพ การจำหน่ายผลผลิตและสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในสังคม ประการสุดท้ายเพื่อสร้างวินัย ขยัน ประหยัด อดทน อดออม และจริยธรรมที่ดีในหมู่บ้าน
นายพิศาล บุญผูก ได้นำโครงการดังกล่าวเข้าไปใช้ในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โดยให้ชาวบ้านได้รู้จักการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ นำพันธุ์ข้าวซี ๔-๖๓ และปุ๋ย ให้เกษตรกรทดลองใช้ ปรากฏว่าได้ผลดี ให้ผลผลิตสูง จึงมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม และได้ให้ความรู้แก่เกษตรกร โดยเชิญวิทยากรมาบรรยายส่งเสริมอาชีพเกษตรกรแบบผสมผสาน คือ ทั้งทำนา ทำสวน ปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ได้พยายามจัดสรรที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน ได้พยายามเจรจากับเจ้าของที่ดิน แต่ขณะนี้ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ได้พยายามสร้างจิตสำนึกให้ชาวบ้านรู้จักประหยัดออมทรัพย์ รู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะ มีการจัดกลุ่มออมทรัพย์ขึ้นในอำเภอบางบัวทองและอำเภอไทรน้อย รวม ๖ กลุ่ม จากการจัดกลุ่มนี้ ทำให้ชาวบ้านสามารถนำเงินทุนของกลุ่มมาเป็นทุนหมุนเวียน เกิดประโยชน์กับกลุ่มเป็นอันมาก นายพิศาลฯ ได้ทำหน้าที่อาสาสมัครช่วยเหลือการดำเนินงานของกลุ่มสหกรณ์ต่าง ๆ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นำกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรที่สนใจงานจักสานเข้ารับการอบรมหลักสูตรการทำเครื่องจักสานจากผักตบชวา ก้านมะพร้าว และการสานเสื่อกก เมื่อผ่านการอบรมแล้ว ก็ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ของครอบครัว นอกจากนั้น นายพิศาลฯ ได้ส่งเสริมให้เยาวชนในหมู่บ้านรู้จักการเล่นกีฬา เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเยาวชนมาก
นายพิศาล บุญผูก เป็นผู้สนใจที่จะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติไว้นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ กระทั่งปัจจุบัน ได้จัดทำพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขึ้นที่บ้านเกาะเกร็ด อำเภอเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นบ้านของตนเอง ได้รวบรวมศิลปวัตถุที่มีค่าและหาได้ยากไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องปั้นดินเผา มีลักษณะเป็นแบบมอญโบราณและพยายามสะสมและหาซื้อเพิ่มเติมเพื่อเก็บรวบรวมไว้ให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาชมโดยไม่คิดมูลค่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ นายพิศาลฯ ได้ร่วมกับวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร จัดพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่วัด เพื่อรวบรวมศิลปวัตถุโบราณ และสิ่งของที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังได้ร่วมมือกับศูนย์วัฒนธรรม จังหวัดนนทบุรี หาทุนเพื่อซ่อมภาพจิตรกรรมฝาผนัง และบูรณะโบราณสถานต่าง ๆ ในจังหวัดนนทบุรี
นายพิศาล บุญผูก ยังได้รวบรวมเอกสาร สิ่งพิมพ์ วีดิทัศน์ ภาพถ่าย สไลด์ และแถบบันทึกเสียงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ไว้ เพื่อให้ผู้สนใจขอยืมไปประกอบการศึกษา จากผลงานต่าง ๆ ของนายพิศาล บุญผูก ได้กระทำมาด้วยความเสียสละเพื่อประโยชน์กับบุคคลอื่น ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด จึงสมควรได้รับการยกย่องและสรรเสริญ ให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่นที่จะถือปฏิบัติตามต่อไป
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ นายพิศาล บุญผูก
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปี ๒๕๓๕”