คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
นายโกวิท วรพิพัฒน์
ข้าราชการที่ได้รับทุนไปศึกษาต่างประเทศ เมื่อสำเร็จกลับมาแล้ว มักจะไม่ได้ใช้วิชาความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาอย่างเต็มสติกำลัง ทั้งนี้ ก็เพราะการริเริ่มเสนอวิธีการใหม่ ๆ อาจมีอุปสรรคนานาประการ ต้องใช้ความพยายามในการแก้ไขปัญหาจนเกิดความเบื่อหน่ายท้อแท้ใจ นอกจากนั้น ผลตอบแทนที่ได้รับจากรัฐบาล ก็ไม่เพียงพอในการเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว เมื่อหมดสัญญาผูกพันก็หาโอกาสลาออกไปทำงานส่วนตัวหรือร่วมกับภาคเอกชนซึ่งมีโอกาสดีกว่า แต่ก็ยังมีข้าราชการท่านหนึ่ง สำเร็จการศึกษาชั้นสูงจากต่างประเทศ ยึดมั่นในอุดมการณ์ซึ่งมีอยู่เดิม มีความเสียสละ มีความประสงค์ที่จะจรรโลงการศึกษาของชาติให้ดีขึ้น บุคคลผู้นั้นคือ “นายโกวิท วรพิพัฒน์”
นายโกวิท วรพิพัฒน์ อายุ ๕๙ ปี เกิดที่ตำบลสาวชะโงก อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ประโยคครูประกาศนียบัตรจังหวัด ประโยคครูมูลและศึกษาด้วยตนเอง จบประโยคครูพิเศษประถมศึกษา และครูมัธยมพิเศษ รับราชการเป็นครูประชาบาลอยู่หลายปี จึงรับทุนไปศึกษาปริญญาตรี โท และเอก เกี่ยวกับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยยูท่าห์ สหรัฐอเมริกา จึงนับได้ว่า นายโกวิท วรพิพัฒน์ เป็นผู้รอบรู้ปัญหาและวิธีแก้ปัญหาการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาต่อเนื่อง ของประเทศไทยเป็นอย่างดีคนหนึ่ง การปฏิบัติราชการระดับบริหารครั้งแรก ในตำแหน่งหัวหน้ากองการศึกษาผู้ใหญ่ กรมสามัญศึกษา นายโกวิท วรพิพัฒน์ ได้ริเริ่มตั้งโครงการการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ (แบบไทย) ซึ่งมุ่งให้ผู้เข้ารับการศึกษาระดับชาวบ้านได้รู้จักคิดแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพสถานะกำลังของตนและของกลุ่ม ที่เรียกว่า “คิดเป็น” ซึ่งเป็นแบบแผนการศึกษาที่องค์การวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ยอมรับและนำไปใช้ นอกจากนี้ นายโกวิท วรพิพัฒน์ ยังเห็นความสำคัญและประโยชน์ของ “การอ่าน” จึงตั้งโครงการอ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้านขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลและประชาชน โครงการนี้เป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ทำให้ชาวบ้านขวนขวายในการรู้หนังสือจากการดูภาพแล้วอยากรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นการส่งเสริมให้คนรู้หนังสือง่ายขึ้น ปัจจุบันที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้านมีมากกว่าสามหมื่นแห่ง
นายโกวิท วรพิพัฒน์ ได้เห็นความสำคัญของการกระจายการศึกษาไปสู่ชนบท จึงได้จัดตั้งศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนประจำภาค ประจำจังหวัด โดยได้พัฒนาระบบโครงสร้างการศึกษานอกระบบให้เป็นระบบที่สามารถติดตาม นิเทศและพัฒนาการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งงานออกเป็น ๓ ลักษณะ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาข่าวสารข้อมูล และการศึกษาทักษะอาชีพ การจัดการกล่าวดังกล่าวถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่คิดริเริ่มจัดแบบนี้ นอกจากนั้น มีโครงการครูอาสาสมัครสอนประจำที่เดิมสอน สอนโดยระบบทางไกล และเรื่องอื่น ๆ อีกมาก ความคิดริเริ่มที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ “การทอดผ้าป่าหนังสือ” เป็นเหตุให้ที่อ่านหนังสือและห้องสมุดประชาชนตามท้องถิ่นต่าง ๆ ได้รับหนังสือเป็นจำนวนมาก
ในตำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการ นายโกวิท วรพิพัฒน์ ก็ได้นำแนวการศึกษาเรื่อง “คิดเป็น” มาจัดหลักสูตรใหม่ ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงมุ่งเน้นให้นักเรียนรุ่นใหม่คิดเป็นทำเป็นให้เหมาะสมกับตัวเองและหมู่คณะ เป็นการมุ่งเพื่อประโยชน์ของชีวิตและสังคม มิได้มุ่งเรียนเพื่อสอบเอาประกาศนียบัตรหรือปริญญาบัตรอย่างเดียวเท่านั้น ผู้ศึกษายุคใหม่ต้องทำงานเป็นกลุ่ม มีวินัย ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้จักพึ่งตนเอง มองเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ โครงการอื่น ๆ ที่มีผลสำเร็จ คือ โครงการรณรงค์ส่งเสริมนิสัยให้ “รักการอ่าน” โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา โครงการพัฒนาการบริหารหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งจะทำให้นักเรียนมองเห็นช่องทางในการดำรงชีพในอนาคต งานบริหารในตำแหน่งอธิบดีกรมสามัญศึกษา นายโกวิท วรพิพัฒน์ ได้กำหนดทิศทางในการจัดการศึกษาไว้ว่า นักเรียนเป็นหัวใจของการจัดการศึกษา บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีของโรงเรียน มีส่วนช่วยเสริมสร้างความคิดและคุณธรรมต่าง ๆ ได้ โรงเรียนที่ดีจะต้องไม่แปลกแยกจากชุมชน การร่วมคิด ร่วมให้คำปรึกษา แนะนำ สนับสนุน ทั้งด้านความคิดทรัพยากร ช่วยเผยแพร่ผลงาน ตลอดจนส่งเสริมให้มีสวัสดิการที่ดี จะทำให้ผู้บริหารโรงเรียน ครู และนักเรียน มีกำลังใจในการปฏิบัติงาน ตลอดระยะเวลา ๒ – ๓ ปี ที่หน่วยงานและโรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษาได้ยึดถือแนวทางดังกล่าวเป็นหลักปฏิบัติ ทำให้กิจการก้าวหน้าไปเป็นอันมาก
นับตั้งแต่จบการศึกษาจากต่างประเทศ นายโกวิท วรพิพัฒน์ ได้เข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่ได้รับการแต่งตั้ง ได้ปฏิบัติงานอย่างมีอุดมการณ์ ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์สุจริต จนเกิดเป็นผลดีกับประเทศชาติอย่างเห็นได้ชัด ควรเป็นแบบอย่างแก่คนอื่น ๆ ที่จะถือปฏิบัติสืบต่อไป
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ นายโกวิท วรพิพัฒน์
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปี ๒๕๓๕”