คำประกาศเกียรติคุณคนไทยตัวอย่างประจำปีพุทธศักราช ๒๕๓๔
นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ
หน้าที่ของครูไม่เพียงแต่เป็นผู้สอนนักเรียนในระบบโรงเรียนอย่างเดียวเท่านั้น ควรจะได้อุทิศตนสั่งสอนบุคคลต่าง ๆ ให้เกิดความรู้ความสามารถทางการศึกษาและงานอาชีพแก่ผู้มีโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทที่ห่างไกลจากความเจริญ เพื่อให้เขาเหล่านั้นดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข มีครูคนหนึ่งสามารถปฏิบัติการดังกล่าวมาแล้วเป็นผลดีมาก ครูคนนั้นคือ “นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ”
นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ อายุ ๔๐ ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยครูเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นอาจารย์หัวหน้าโครงการพิเศษโรงเรียนสารพัดช่างเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับราชการครั้งแรกในปี ๒๕๑๗ เป็นครูสอนศิลปศึกษาที่โรงเรียนห้องสอนศึกษา จังหวัดแม่ฮ่องสอน และปฏิบัติหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอนนี้ขาดครูสอนศิลปศึกษา เนื่องจากเป็นจังหวัดกันดาร จึงได้พบเห็นผู้ขาดโอกาสที่จะได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียนจำนวนมาก นับเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งของสังคม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ มีปณิธานอันแรงกล้า มุ่งมั่นที่จะนำการศึกษาวิชาชีพมาตอบสนอง เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นนำไปทำมาหาเลี้ยงชีพ และดำรงตนอยู่ในสังคมไทยได้อย่างมีความสุข ในปี ๒๕๒๕ นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ โอนไปรับราชการเป็นครูประจำแผนกเพ้นท์สีและของที่ระลึกโรงเรียนสารพัดช่างเชียงใหม่ สังกัดกรมอาชีวศึกษา มีโอกาสได้ทำงานตามอุดมการณ์ที่วางไว้ โดยทำงานสาขาวิชาที่ถนัด คือ งานวิชาชีพทางด้านศิลปศึกษา สอนให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียน เพื่อนำความรู้ไปประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตัวและครอบครัว ผู้รับการศึกษาเกือบทั้งหมดเป็นผู้ขาดโอกาสรับการศึกษาระบบโรงเรียน ยากจน บ้างก็ร่างกายพิการ หรือประสบปัญหาสังคม ฯลฯ เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าโครงการพิเศษของโรงเรียนสารพัดช่างฯ สามารถขยายขอบเขตการจัดการศึกษาวิชาชีพให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เดิมสอนเฉพาะผู้มารับการศึกษาที่โรงเรียนสารพัดช่างฯ เท่านั้น ตอนหลังด้วยการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดโครงการศึกษาวิชาชีพแก่ประชาชนในท้องถิ่นที่ห่างไกล อาทิ โครงการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจัดการฝึกหัดอาชีพให้แก่นักเรียนตามโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สนับสนุนการสอน วิชาชีพในโครงการศิลปาชีพแก่สมาชิกในกลุ่มภูพิงค์ราชนิเวศน์ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการศึกษาอบรมวิชาชีพให้กับราษฎรในพื้นที่อพยพ ตลอดจนการฝึกอบรมวิชาชีพให้กับประชาชนทั่วไปทุกอำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่
ตลอดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่วิชาชีพครู นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ ได้เสียสละอุทิศเวลาให้กับการพัฒนางานอาชีพให้กับประชาชนโดยทั่วไป มิย่อท้อต่ออุปสรรค และไม่คำนึงถึงสิ่งตอบแทนที่ตนพึงจะได้รับ อีกทั้งบางครั้งโครงการบางแห่งขาดทุนทรัพย์ที่จะดำเนินงาน ก็ยินดีเสียสละเงินส่วนตัวเพื่อให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ การปฏิบัติงานของ นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ จึงควรเป็นแบบอย่างที่ดีของครูและข้าราชการโดยทั่วไป
มูลนิธิธารน้ำใจได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรยกย่องให้ นายสุรเกียรติ ยอดวิเศษ
“เป็นคนไทยตัวอย่างประจำปี ๒๕๓๔”