ประวัติ:
ปี พ.ศ. 2501 ได้ก่อตั้งขึ้น มีชื่อเดิมว่า “โรงเรียนพระโขนง”
ปี พ.ศ. 2517 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย”
สถานที่ตั้ง: โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ มีพื้นที่ 29 ไร่ 3 งาน 75 ตารางวา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 62 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10250
ปัจจุบัน โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย จัดเป็นโรงเรียนในกลุ่มที่ 4 และสหวิทยาเขตเบญจสิริ สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี นายยอร์ช เสมอมิตร เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 จนถึงปัจจุบัน มีครูและอาจารย์ จำนวน 147 คน เป็นชาย 39 คน เป็นหญิง 108 คน มีนักเรียนทั้งสิ้น จำนวน 3,372 คน เป็นนักเรียนชาย 1,640 คน และนักเรียนหญิง 1,732 คน
คติพจน์ของโรงเรียน: “นตถิ ปญญาสมา อาภา” แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี
บางส่วนของ
โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย
.....ในอดีต.....เมื่อครู อาจารย์ หรือผู้บริหารคนใดถูกย้ายให้มาประจำอยู่สถานศึกษาแห่งนี้ก็จะรู้สึกเสมือนถูกลงโทษ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิด เพราะสถานที่ตั้งของโรงเรียนฯ ล้อมรอบไปด้วยชุมชนซึ่งเป็นแหล่งอบายมุขมากมาย ปัญหาสารเสพติดกระจายไปทั่ว ทั้งผู้เสพ แหล่งค้า ตัวแทนขาย แต่ความรู้สึกเข่นนั้นกลับกลายเป็นความท้าทายในความสามารถของครู อาจารย์ และผู้บริหาร จนในปัจจุบัน.....สถานศึกษาแห่งนี้ เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ที่ใครๆ ก็อยากเข้ามาพักพิง........
โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษในสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ สถานที่ตั้งของโรงเรียนถือเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนต่าง เช่น ชุมชนสวนอ้อย ชุมชนโรงเหมู ชุมชนบางไทรและชุมชนแออัดย่านทางรถไฟเก่า ชุมชนคลอดเตย และชุมชนแออัดต่างๆ บริเวณหลังวัดบุญรอดและคลองเจ๊ก และอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบและคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าสารเสพติดหรืออบายมุขต่างๆ ส่วนใหญก็มาจากแห่งของชุมชนเหล่านี้ นั่นเอง
ดังนั้น โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย ก็ไม่สามาถปฏิเสธได้เช่นกันว่า นักเรียนของโรงเรียนฯ ส่วนใหญ่ต้องมาจากครอบครัวที่อยู่ในชุมชนต่างๆ โดยรอบเหล่านี้ และมีจำนวนไม่น้อยที่มาจากสภาพแวดล้อมของอบายมุขและสารเสพติด และหลายครั้งที่อบายมุชและสารเสพติดเหล่านี้ได้ถูกแอบนำเข้ามาภายในโรงเรียน ทั้งลักษณะการจำหน่าย การเสพ และการแอบมั่วสุม
คณะครู อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัยซึ่งตระหนักถึงโทษภัยและการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตลอดจนอบายมุขต่างๆ อันเป็นปัญหาของประเทศชาติที่เกิดกับเยาวชน จึงได้เริ่มจากการศึกษานโบยายและยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินขจัดสิ้นยาเสพติด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน คุณธรรมจริยธรรม และการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตมาเป็นรูปแบบแนวทางปฏิบัติ พร้อมกับวิเคราะห์สภาพปัญหาเพราะโรงเรียนมีสถานที่ตั้งอยู่ในแหล่งเสี่ยงสูง ซึ่งสรุปได้ว่าปัญหานักเรียนเกี่ยวข้องกับสารเสพติดเกิดจาก ...
- เพื่อนขวน เพราะอยากแสดงความอวดเก่ง หรือต้องการลบปมด้อย ฯลฯ
- อยากลอง เพราะรู้สึกท้าทาย หรืออยากรู้รสชาติ ฯลฯ
- สิ่งแวดล้อม เพราะสถานที่ตั้งของโรงเรียนและบ้านอยู่ใกล้ชุมชน แหล่งค้าสารเสพติด ฯลฯ
- ปัญหาครอบครัว เพราะขาดความรัก ความาเข้าใจ ความาอบอุ่นจากพ่อแม่ หรือพ่อแม่เลิกกัน
โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย จึงได้เชิดชูในความรักประเทศชาติ รักพระเจ้าอยู่หัว รักเยาวชนของชาติ โดยได้
ร่วมกันสร้างทีมงานแสวงหาความร่วมมือจากนักเรียน ผู้ปกครอง ครู-อาจารย์ นักการภารโรง บุคลากรในโรงเรียน ชุมชน วัด หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา บำบัด รักษากายและใจ และป้องปรามปัญหาสารเสพติดไม่ให้แพ่ขยายออกไป และที่มีอยู่ให้ลดน้อยลงจนกระทั่งให้หมดไปในที่สุด
การป้องกันแก้ไขจึงได้ดำเนินขึ้น โดยการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์และต่อต้างสิ่งเสพติดยอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการอบรมสัมมนาสารเสพติด การจัดแบ่งขันกีฬาและจัดตั้งลานกีฬาต้านยาเสพติด การคัดเลือกยุวทูตต่อต้านยาเสพติดสัญจร จัดตั้งศูนย์แหล่งเรียนรู้โทษภัยยาเสพติด “ศูนย์คลายทุกข์ สุขใจ ไร้สาร” และกิจกรรมพบผู้ปกครอง ให้ความรู้ “เลี้ยงลูกอย่างไรให้มีความสุข” “เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างไกลยาเสพติด” “การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร” ฯลฯ
การรณรงค์และตื่อต้านสารเสพติดอย่างจริงจังของคณะครู อาจารย์และผู้บริหารของโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย จึงแทบจะไม่มีวันหยุดราชการหรือวันหยุดทำงาน เพราะทุกคนตระหนักถึงปัญหาของเยาวชนที่เกี่ยวกับสารเสพติด จึงได้อาสาออกเยี่ยมเยียนครอบครัวของนักเรียน โดยเฉพาะครอบครัวของนักเรียนที่มีปัญหา และข้อมูลของปัญหาจึงถูกรวบรวมนำมาวิเคราะห์เพื่อหาทางแก้ไข และปัญหาส่วนใหญ่ของนักเรียนที่มีปัญหา ก็คือ ปัญหาจากสถาบันครอบครัวที่แตกแยก ขาดความอบอุ่น เศรษฐกิจภายในครอบครัวไม่ดี พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแล หรือไม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก และปัญหาจากสภาพสังคมของชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงและสามารถชักจูงเยาวชนไปได้ง่าย เช่น การเสพสารเสพติด การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า การเที่ยวเตร่มั่วสุม การทะเลาะวิวาท การแต่งตัวตามสมัยนิยม โดยไม่ได้คำนึงถึงฐานะหรือรายได้ของครอบครัว หรือการมีเพศสสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ในการแก้ไขปัญหาภายนอก โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัยได้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้นำ ชุมชน วัด และบุคคลหรืองค์กรต่างๆ ที่ชาวชุมชนเหล่านี้ให้ความเคารพนับถือ ศรัทธาและเชื่อฟัง เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น เพื่อที่จะสอดแทรกความรู้ความเข้าใจโทษภัยของอบายมุขและสิ่งเสพติด และหันมาเวลว่างให้เป็นประโยชน์ และร่วมกันป้องปรามอย่างจริงจัง เช่น การจัดแข่งขันกีฬาระหว่างชุมขน การประสานให้ศิลปินนักดนตรีซึ่งเป็นศิษย์เก่ามาจัดแสดงดนตรีเพื่อรณรงค์ การอบรมผู้นำชุมชน เพื่อให้พ่อแม่ได้รู้ว่าบุคคลสำคัญอันดับแรกที่ควรให้ความรัก ความเข้าใจและเป็นกำลังใจให้แก่ลูก ก็คือ พ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดนั่นเอง
ทางด้านภายในโรงเรียนฯ คณะครู อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียน ได้อบรมสั่งสอนนักเรียนด้วยความรัก ความเมตตา ความจริงใจ ให้โอกาส และให้กำลังใจ เสมือนครูเป็นพ่อแม่ เปลี่ยนบรรยากาศทางการเรียนเป็นบรรยากาศของครอบครัว เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปจากสถาบันครอบครัวและไม่ให้รู้สึกว่าตนเองนั้นมีปมด้อย ในขณะเดียวกันก็ปลูกฝังจริยธรรมและคุณธรรมให้แก่เด็กนักเรียนและสอนให้เด็กนักเรียนได้รู้ซึ้งถึงโทษภัยของสารเสพติด และมีจิตสำนึกในความรับผิดของต่อตนเอง ต่อโรงเรียน ต่อครอบครัว ต่อสังคม และต่อประเทศชาติ พร้อมกันนี้ก็ได้แบ่งนักเรียนของโรงเรียนณ ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
- กลุ่มบริสุทธิ์ เพื่อให้ความรู้ ฝึกทักษะชีวิต จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ประชุม อบรมแก่นนำ ร่วมกันจัดนิทรรศการ และจัดตั้ง “ศูนย์คลายทุกข์ สุจใจ ไร้สาร” เพื่อคอยให้คำปรึกษาแก่นักเรียน และ ให้นักเรียนได้เข้ามาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในการเล่นกีฬา อ่านหนังสือ และร่วมกันจัดกิจรรมต่างๆ ที่ต่อต้านสารเสพติด และยังให้นักเรียนเสนอตัวเองเข้ามาเป็นอาสาสมัครร่วมรณรงค์ต่อต้านสารเสพติดด้วย
- กลุ่มเสี่ยง เพื่อให้กลุ่มเพื่อนนักเรียนที่เป็นอาสาสมัครช่วยสังเกตและหาข้อมูลเพื่อป้องปรามและแก้ไข และเมื่อพบเห็นความเปลี่ยนแปลงก็จะร่วมกับผู้ปกครองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้การปรึกษาสุขภาพจิต และจัดอบรม/กิจกรรม/ทัศนศึกษา หรือใข้เวลาลว่างให้เป็นประโยชน์ จนหายเป็นปกติ
- กลุ่มติดยา (กลุ่มที่ติดยาแล้วกลับมาเสพอีก) เพื่อจะดำเนินการให้การปรึกษาบำบัดจิตใจ หรือให้ศูนย์บำบัด/โรงพยาบาลเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ
- กลุ่มค้ายา เพื่อจะทำการสอดส่องดูแล ตรวจค้น โดยประสานกับผู้ปกครองเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศทางการเรียน และให้เลิกพฤติกรรม หากปรับเปลี่ยนไม่ได้ก็อาจนำกระบวนการทางกฎหมายมาใช้
การเปลี่ยนแปลงบรรยากาศทางการเรียนมาเป็นบรรยากาศของครอบครัวนับว่าได้ผลอย่างมาก การที่ครูและอาจารย์ทุกคนเรียกนักเรียนว่า”ลูก” และนักเรียนทุกคนเรียกครูและอาจารย์ว่า “พ่อ” และ “แม่” และการที่ครูและอาจารย์ได้ลงไปดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งนักเรียนได้ดูแลกันเอง ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น จริงใจ นักเรียนหลายคนที่ครอบครัวปัญหาพ่อแม่แยกทางกันและทางบ้านมีปัญหาเกี่ยวกับสารเสพติด ครูและอาจารย์ก็ให้ความรู้ความเข้าใจ ให้กำลังใจ ความอบอุ่นและให้โอกาส ทำให้นักเรียนเกิดความรู้สึกสบายใจไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด แต่หันมาสนุกับการเรียนและร่วมรณรงค์ต่อต้านสารเสพติด และกล้าที่จะชี้แจงให้คนในครอบครัวรู้และเข้าใจถึงโทษภัยของสารเสพติดเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม
โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของนักเรียน นักเรียนจะมีความรักความผูกพันและหวงแหนในสถาบัน มีความสามัคคีในหมู่นักเรียน ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ มีโอกาสค้นหาตัวเองได้ว่า ต้องการอะไร มีวิสัยทัศน์อย่างไร มีความสามารถอย่างไร และนักเรียนได้ร่ามกันคิด นำเสนอโครงการและกิจกรรมที่ต่างๆ เดี่ยวกับจริยธรรม ศาสนา และการแก้ไขปัญหาด้านสารเสพติดมากมาย เช่น
- การจัดนิทรรศการรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก
- การจัดนิทรรศการวันต่อต้านยาเสพติดโลก
- กีฬาต้านยาเสพติดกับศิลปินนักรัอง
- กิจจกรรมรณรงค์วันแห่งความรักต้านภัยยาเสพติด
- กิจรรมวันเอดส์โลก
- การสอบธรรมศึกษา ตอบปัญหาธรรมะ
- การแข่งขันบรรยายธรรมะ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
- จัดติดป้ายคำขวัญ คติสอนใจ ทางพุทธศาสนา
- จัดตั้งแหล่งเรียนรู่ทางศาสนา ห้องจริยธรรมศึกษา
- จัดที่นั่งทำการบ้านพักผ่อน ปรับปรุงมุมอับต่างๆ
การดำเนินการปัองกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอบายมุขและสารเสพติดของโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย นับว่าประสบความสำร็จเกินความคาดหมาย เพราะนอกจากจะสามารถแก้ไขพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มเสี่ยงได้เกือบหมดแล้ว นักเรียนที่ติดสารเสพติดก็กล้าที่จะเดินเข้ามาขอรับการรักษาด้วยตนเอง อีกทั้งการนำสารเสพติดมาจำหน่ายในโรงเรียนก็แทบจะหมดไป นักเรียนส่วนใหญ่ได้ช่วยกันสอดส่องแจ้งข่าวสารให้แก่ครู และอาจารย์ ได้ทราบหากนักเรียนคนใดมีพฤติกรรมที่ผิดปกติและยังช่วยให้คำปรึกษาแก่เพื่อนนักเรียนด้วยกัน ตลอดจนช่วยชี้แจงแก่คนในชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเสพเสพติดเมื่อมีโอกาส
ทางด้านผู้ปกครองของนักเรียนและองค์กรภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสมาคมนักเรียนเก่าและผู้ปกครองเครือข่าย ก็มีความเข้าใจและให้ความร่วมมือในกิจกรรมของโรงเรียนเป็นอย่างดีเสมอ และยังช่วยรณรงค์และแจ้งจ่าวสารเกี่ยวกับสารเสพติดเพื่อช่วยป้องปรามให้หมดไปอีกทางหนึ่งด้วย จึงนับว่ากิจกรรมของโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัยได้ช่วยเหลืออนาคตของเด็กและเยาวชน และสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ชุมชน แก่สังคม และแก่ประเทศชาติได้อย่างดียิ่ง และยังถือเป็นการพัฒนาความรับผิดชอบไปสู่สังคมของสถานศึกษาได้อีกแนวหนึ่ง แต่ความมุ่งมั่นของคณะครู อาจารย์ และผู้บริหารของโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัยก็ยังสานต่อนโยบายในการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ต่อไป เพื่อร่วมกันจัดกิจรรมสเสริมสร้างคุณธรรมจริธยรรม และปัองกันปัญหาด้านสารเสพติดของนักเรียน เด็ก และเยาวชนให้ลด ละ เลิก อย่ายั่งยืน และเพื่อให้เป็นคนดีและกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต